'ราคาน้ำมัน' พุ่งแตะระดับสูงสุดรอบ 5 เดือน
ราคาน้ำมันดิบโลกปรับเพิ่มขึ้นในวันพุธ (5 ส.ค.) แตะระดับสูงสุดรอบ 5 เดือน หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลงกว่า 7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดไว้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือน ก.ย. ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 42.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 49 เซ็นต์ (1.2%) ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดที่ 45.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ (1.7%)
ราคาน้ำมันดิบโลกปรับเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 7.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงเพียง 4 ล้านบาร์เรล
ก่อนหน้านี้ สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 8.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 419,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินต่างประเทศ ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคาน้ำมันดิบโลก
ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยตัวเลขภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสกับทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
นายชัค ชูเมอร์ แกนนำของพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวว่า "เรามีความคืบหน้าในระดับหนึ่ง และใกล้จะบรรลุข้อตกลง โดยแม้ว่ายังมีหลายประเด็นที่ยังไม่สามารถตกลงร่วมกันได้ แต่เราพยายามที่จะผลักดันให้มีการบรรลุข้อตกลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้"