‘โตโยต้า’ กำไรวูบ 74% ไตรมาสสอง เซ่นพิษโควิด

บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ รายงานวันนี้ (6 ส.ค.) ว่า บริษัทมีผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.58 แสนล้านเยนในช่วง 3 เดือนถึงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ลดลง 74% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ขณะที่รายได้ระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย. อยู่ที่ 4.6 ล้านล้านเยน ลดลง 40% จากปีที่แล้ว ส่วนผลกำไรจากการดำเนินงานสุทธิอยู่ที่ 1.39 หมื่นล้านเยน ลดลงถึง 98%

แม้มีผลกำไรลดลง 2 ไตรมาสติดต่อกัน แต่โตโยต้ายังมีผลประกอบการดีกว่าบรรดาคู่แข่งทั้งหมด ได้อานิสงส์จากยอดขายที่แข็งแกร่งในจีน

ยอดขายรถรายเดือนในจีนของโตโยต้าฟื้นตัวตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา หลังร่วงหนักเกือบ 70% ในเดือน ก.พ. เทียบกับปีที่แล้ว โดยในภาพรวมระหว่างเดือน ม.ค.-ก.ค. ยอดขายรถโตโยต้าในจีนเพิ่มขึ้น 1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนกระแสวิกฤติการระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้ โตโยต้าคาดว่า ยอดขายรถในสหรัฐจะทยอยฟื้นตัว โดยยอดขายในเดือน ก.ค. ลดลง 19% เทียบกับปีที่แล้ว หลังจากเคยวูบหนักถึง 50% ในเดือน เม.ย.

ขณะเดียวกัน ค่ายรถยักษ์ใหญ่เตือนว่า ผลกำไรในปีงบการเงินปัจจุบันของบริษัทนับถึงเดือน มี.ค. 2564 จะอยู่ที่ 7.3 แสนล้านเยน ลดลง 64% เทียบกับปีงบการเงินก่อนหน้า

แม้จะมีความท้าทายหลายด้าน แต่โตโยต้าคาดว่า ความต้องการในตลาดยานยนต์จะฟื้นตัวดีขึ้น และบริษัทอาจจะออกมาตรการลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นผลกำไรในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

ก่อนหน้านี้ ค่ายรถรายอื่น ๆ อย่าง “ฮอนด้า มอเตอร์” รายงานเมื่อวันพุธ (5 ส.ค.) ว่า มีผลขาดทุนสุทธิ 8 หมื่นล้านเยนในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2563 ขณะที่ “โฟล์คสวาเกน กรุ๊ป” ค่ายรถเยอรมัน เผยว่า ขาดทุนสุทธิ 1,600 ล้านยูโรในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วน “นิสสัน มอเตอร์” ผู้ผลิตรถญี่ปุ่นอีกราย รายงานว่า ขาดทุนสุทธิ 2.85 แสนล้านเยนในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบการเงินปัจจุบัน