วัยรุ่นทั่วโลกรวมตัวจี้แก้โลกร้อน

วัยรุ่นทั่วโลกรวมตัวจี้แก้โลกร้อน

วัยรุ่นทั่วโลกรวมพลังภายใต้การนำของ “เกรตา ทุนเบิร์ก” นักเคลืื่อนไหวชาวสวีเดน ชุมนุมกันครั้งแรกระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 เรียกร้องปฏิบัติการเร่งด่วนระงับภัยพิบัติจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

ท่ามกลางสภาพอากาศโลกกำลังเลวร้ายสุดๆ ตั้งแต่ไฟไหม้ป่าทางภาคตะวันตกของสหรัฐ ไปจนถึงคลื่นความร้อนผิดปกติในแถบไซบีเรีย และน้ำท่วมหนักเป็นประวัติการณ์ในจีน เหล่าวัยรุ่นทั่วโลกต้องออกมารวมตัวกันเพื่อกระตุ้นเตือนนักการเมืองว่า ในช่วงที่โลกกำลังจดจ่ออยู่กับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) วิกฤติสภาพอากาศยังไม่หายไปไหน

วานนี้ (25 ก.ย.) คนหนุ่มสาววางแผนจัดประท้วงกว่า 3,100 จุด เริ่มต้นจากออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และฟิจิ แต่เนื่องจากโควิดยังระบาดจึงจำเป็นต้องลดขนาดการรวมตัวกัน หลายที่เปลี่ยนเป็นทำกิจกรรมทางออนไลน์แทน

ที่กรุงสตอกโฮล์มของสวีเดน ทุนเบิร์กและเพื่อนจำนวนหนึ่งในกลุ่ม “วันศุกร์เพืื่ออนาคต” รวมตัวกันที่นอกรัฐสภา เธอทวีตข้อความตั้งแต่วันพฤหัสบดี (24 ก.ย.) ระบุ “กองหน้าจะกลับมาอีกในสัปดาห์หน้า เดือนหน้า และปีหน้า ตราบนานเท่านาน”

ที่ฟิลิปปินส์ มิตซี โจเนล ตัน นักเคลื่อนไหวกลุ่มวันศุกร์เพื่ออนาคต วัย 22 ปีกล่าวว่า รัฐบาลของเธอล้มเหลวป้องกันประชาชนให้พ้นวิกฤติทั้งสภาพอากาศและโควิด-19 ไม่ได้ วิกฤติโควิด-19 ทำให้เห็นถึงการตอบรับวิกฤติแบบไม่ได้สัดส่วน

“พวกเขายังคงให้ความสำคัญกับคนรวยเหนือคนจน พวกเขายังไม่ฟังข้อมูลทางวิทยาศาสตร์”

ในออสเตรเลียนักเรียนหลายพันคนร่วมการชุมนุมเล็กๆ ราว 500 จุด และการประท้วงออนไลน์ เรียกร้องการลงทุนในพลังงานทดแทน พร้อมคัดค้านการให้เงินทุนสนับสนุนโครงการก๊าซ

สำหรับกลยุทธ์ประท้วงออนไลน์ ผู้จัดประท้วงขอให้ประชาชนโพสต์ภาพกิจกรรมลงบนโซเชียลมีเดีย และเข้าร่วมการประชุมผ่านซูม ส่วนในที่ที่ลงถนนได้ก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบในแต่ละท้องถิ่น ทั้งการจำกัดขนาดผู้ชุมนุมและรักษาระยะห่างระหว่างกัน

การเดินขบวนวานนี้เน้นย้ำถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับ “ประชาชนและภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด” ชุมชนที่มีส่วนปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียงน้อยนิด แต่กลับเป็นแนวหน้ารับความเสียหายใหญ่หลวงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม น้ำทะเลเพิ่มสูง และตั๊กแตนบุกทำลายพืชผล

ปีก่อนเคยมีการประท้วงแบบนี้ทั่วโลกครั้งใหญ่ 2 ครั้ง ผู้ชุมนุมรวมตัวกันบนท้องถนนกว่า 6 ล้านคน ผู้จัดงานยกให้เป็นการระดมพลต่อต้านโลกร้อนครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์