‘วีซ่านักธุรกิจต่างชาติ’ หนุนรายได้ฟื้น ศก.ไทย

‘วีซ่านักธุรกิจต่างชาติ’ หนุนรายได้ฟื้น ศก.ไทย

เปิดเศรษฐกิจประเทศในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งเป็นสถานการณ์ไม่ปกติ เป็นสิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศคำนึงถึงการรักษาสมดุลระหว่างเศรษฐกิจและสาธารณสุข เพื่อใช้ประโยชน์จากที่ไทยพบผู้ติดเชื้อในเกณฑ์ต่ำ

ชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับกรุงเทพธุรกิจ ว่า การอนุญาตให้ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศในระยะเริ่มต้น มุ่งฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ให้ความเห็นต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ และผลักดันเรื่อง การอนุญาตให้นักธุรกิจเดินทาง ซึ่งเป็นผู้ถือวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non - Immigrant) ประเภทต่างๆ เข้าไทยได้ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. โดยอาศัยอำนาจตามข้อ 3 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ฉบับที่ 13 จน ศบค.ได้รับความเห็นชอบแล้ว ได้แก่

1.กลุ่มต่างชาติเกษียณอายุ 50 ปีขึ้นไป ต้องการใช้ชีวิตเกษียณบั้นปลายชีวิตในไทย โดยเงื่อนไขคนกลุ่มนี้ต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีหลักทรัพย์แสดงตั้งแต่ 8 แสน หรือ 3 ล้านบาทขึ้นอยู่กับกรณี แบ่งเป็นประเภท

1) วีซ่า Non - Immigrant รหัส O_A เป็นต่างด้าวทุกสัญชาติ จะได้รับการอนุญาตพำนักได้ 1 ปี และขยายได้ 1 ปี คนกลุ่มนี้เป็นผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย หรือสนใจจะลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อหนีหนาวจากประเทศพวกเขา

2) วีซ่า Non - Immigrant รหัส O_X จะได้รับอนุญาตให้พำนัก 5 ปีและขยายได้ 5 ปี เป็นคนต่างด้าวจาก 14 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (โออีซีดี) อาทิ สหรัฐ ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย อังกฤษ เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และกลุ่มสแกนดิเนเวียทั้งหมด

“รัฐบาลไฟเขียวได้เหมาะกับเวลา เพราะกลุ่มต่างชาติรีไทน์ในยุโรปต้องการหนีหนาวมาไทยในช่วงปลายปี หลายคนมีวีซ่าประเภทนี้อยู่แล้ว และมีอสังหาริมทรัพย์ในไทยอยู่แล้ว เพราะข้อกำหนดของ พรก.ฉุกเฉิน แต่การเข้ามาครั้งนี้ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขพิเศษด้านสาธารณสุข” ชาตรีกล่าว

2. กลุ่ม Non - Immigrant รหัส B ต้องการเข้ามาติดต่อหรือดำเนินงานธุรกิจในไทย ที่ไม่เข้าเงื่อนไขมีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)

ที่ผ่านมา กลุ่มนักธุรกิจยื่นขอวีซ่าเข้าไทยต้องมีใบอนุญาตทำงาน ในข้อเท็จจริงยังมีนักธุรกิจจำนวนมากที่ต้องการดูลู่ทางโอกาสทางธุรกิจนำไปสู่การลงทุนขนาดใหญ่ เช่น ดูกิจการโรงแรม และขยายโรงงานในไทย กระทรวงจึงเสนอควรผ่อนผันให้เข้ามาได้

นอกจากนี้ ผู้ยื่นวีซ่ายังเป็นกลุ่มนักลงทุนที่ขนาดกลาง เช่น ลงทุนซื้ออาคารชุดคอนโดมิเนียม ราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป ผู้สนใจซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือมีบัญชีในไทยมีหลักทรัพย์ขั้นต่ำ 3 ล้านบาท

3. กลุ่ม Non - Immigrant รหัส EX เป็นกลุ่มปฏิบัติงานด้านงานช่าง และ 4.กลุ่ม Non - Immigrant รหัส RS เป็นกลุ่มค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์

แนวคิดนี้เกิดจาก "ดอน ปรมัตวินัย" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ หลังจากได้รับหนังสือสมาคมผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เรียกร้องให้กลุ่มนักธุรกิจที่มีอำนาจซื้อเข้ามายังประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศหวังว่า การดำเนินการนี้จะช่วยกระตุ้นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศที่อยู่ในภาวะล้นตลาด และนำเงินต่างชาติช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศได้ตรงจุด

160265963412

5. กลุ่ม APEC Card เป็นกลุ่มที่สนใจเข้ามาหาลู่ทางทำธุรกิจ จะได้รับอนุญาตพำนัก 90 วัน แต่ไม่สามารถขยายอายุได้ เป็นกลุ่มนำร่องจากเขตเศรษฐกิจที่มีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ต่ำ ได้แก่ จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยในอนาคตเตรียมเสนอเพิ่มอีก 2 ประเทศคือ เวียดนามกับไต้หวัน และ 6.Tourist Visa รหัส TR ขอพำนักระยะสั้นและยาว ต้องมีบัญชีเงินฝากไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท

"เบื้องต้นคาดว่า จะมีนักธุรกิจต่างประเทศเข้าไทยประมาณ 1 แสนคน แต่ก็ไม่ได้มาพร้อมกันทีเดียวทั้ง 1 แสนคน และเชื่อว่าอย่างน้อยจำนวนผู้เดินทางเข้ามาจะอยู่ที่ 25% ของทั้งหมด ส่วนกลุ่มเกษียณอายุจะเดินทางเข้ามากว่า 20,000 คนจะสามารถตอบโจทย์การนำรายได้ต่างชาติเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย" อธิบดีกรมการกงสุล กล่าว

ในช่วงที่ผ่านมา รายได้ประเทศไทยอาศัยภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่เวลานี้ บรรยากาศการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่เอื้ออำนวย ทำค่อนข้างยาก และยังไม่มีประเทศไหนเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่มีเงื่อนไขทางสาธารณสุข ดังนั้น การเดินทางมาไทยจะต้องเป็นแบบระยะยาว เพราะต้องถูกกักตัว 14 วัน เพื่อพร้อมเข้ามาอยู่ในสังคมที่ปลอดภัย ซึ่งในทางตรงกันข้าม ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยก็รู้สึกปลอดภัย ในฐานะที่หลายประเทศยกย่องไทยเป็นประเทศเสี่ยงติดโควิด-19 ในเกณฑ์ต่ำ

สถานเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทย เป็นหน่วยงานด่านหน้าจะพิจารณาให้วีซ่า ดูจากหลักฐานเอกสารบริษัทต้นทางที่น่าเชื่อถือ และบริษัท/บุคคลที่เชิญเข้ามาดูงาน โดยต้องไม่เป็นคนจากประเทศกลุ่มเสี่ยงโควิด-19

นอกจากนี้ ผู้ยื่นขอวีซ่าทั้งหมดจะต้องเข้ารับการตรวจไม่พบติดเชื้อโควิด-19 ได้รับเอกสาร Fit to Fly และจะต้องมีประกันสุขภาพขั้นต่ำ 1 แสนดอลลาร์ ตามเงื่อนไขด้านสาธารณสุข อีกทั้งเมื่อเดินทางมาถึงไทย ต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

ในตอนท้าย ชาตรีกล่าวย้ำว่า กระทรวงการต่างประเทศต้องการคัดกรองผู้ที่มีศักยภาพเพื่อสร้างความมั่นใจว่า กลุ่มคนที่เข้ามาไทยตอนนี้ ต้องเป็นผู้ที่สามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศได้อย่างแน่นอน