เปิดโปรไฟล์ 'หวัง อี้' บุคคลที่ 'สี จิ้นผิง' ไว้วางใจ
ย้อนดูผลงานเด่น ๆ ของ "หวัง อี้" รมว.ต่างประเทศของจีน ซึ่งเดินทางเยือนไทยในวันนี้ (15 ต.ค.) ที่แสดงให้เห็นว่า เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของจีน อีกทั้งการเคลื่อนไหวและถ้อยแถลงแต่ละครั้งของเขายังมีนัยแฝงอยู่เสมอ
“หวัง อี้” บุคคลที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนไว้วางใจให้ดูแลด้านการต่างประเทศ เป็นผู้หนึ่งที่กล้าท้าชนสหรัฐอย่างผ่าเผยในหลายเรื่อง และการมาเยือนไทยของเขาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเยือนประเทศในเอเชีย ขณะที่สหรัฐส่ง “ไมค์ ปอมเปโอ” รัฐมนตรีต่างประเทศเยือนญี่ปุ่น เพื่อหาแนวร่วมในการสกัดการแผ่อิทธิพลของจีน
หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อต้นปีนี้ หวัง ซึ่งควบตำแหน่งมนตรีแห่งรัฐของจีน แถลงเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่า จีนและสหรัฐ ควรร่วมมือกันรับมือกับโรคโควิด-19
“ขณะที่เรากำลังเตรียมตัวต่อสู้กับโรคโควิด-19 ทั้งในระยะยาวและเป็นวิถีปกติ ทั้งสองประเทศควรเริ่มต้นร่วมมือและติดต่อกันในด้านนโยบายเศรษฐกิจมหภาคโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากโรคโควิด-19 ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่ายตลอดจนเศรษฐกิจโลก”
หวัง กล่าวว่า ไวรัสการเมือง พยายามโจมตีและใส่ร้ายจีนโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงพื้นฐานกำลังแพร่ในสหรัฐ และเรียกร้องให้จีนและสหรัฐเรียนรู้กันและกัน แบ่งปันประสบการณ์ในการต่อสู้กับไวรัสเพื่อช่วยต่อต้านการแพร่ระบาดของโรคในทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเห็นว่า ปัญหาของโลกาภิวัตน์จำเป็นต้องแก้ไขด้วยโลกาภิวัตน์ และโลกาภิวัตน์พหุภาคีและธรรมาภิบาลโลกควรได้รับการปกป้องและปรับให้เหมาะสมในโลกแห่งการแพร่ระบาดของโควิด-19
“ประเทศจีนได้ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศอื่น ๆ เพื่อต่อสู้กับโควิด-19 ด้วยความตั้งใจเพียงอย่างเดียวในการพยายามช่วยชีวิตให้ได้มากที่สุด” หวังกล่าว และว่า ที่ผ่านมา จีนได้ให้ความช่วยเหลือแก่ 150 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ 4 แห่ง จัดประชุมทางวิดีโอเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การรักษาและควบคุมโรคกับกว่า 170 ประเทศ และส่งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไปยัง 24 ประเทศ
หวัง ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหภาพยุโรป (อียู) ว่า จีนและอียู ไม่ใช่คู่แข่งในเชิงอุดมการณ์ แต่เป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ที่มีความสนใจและความมุ่งมั่นร่วมกันมากมาย
“บทเรียนที่สำคัญที่สุดจากความสัมพันธ์คือ ทั้งสองฝ่ายสามารถสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ผ่านการหารือที่เป็นธรรมและจัดการความแตกต่างผ่านการแลกเปลี่ยนที่สร้างสรรค์ จีนและอียูไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ขั้นพื้นฐาน และปฏิสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอียูเป็นวัฏจักรเชิงบวกที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ไม่ใช่การแข่งขันที่ฝ่ายหนึ่งแพ้และฝ่ายตรงกันข้ามชนะ”
เมื่อครั้งที่ หวัง และ “ดอน ปรมัตถ์วินัย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย พบกันที่กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อวันที่ 19 ก.พ. หวังได้กล่าวชื่นชมในมิตรไมตรีของชาวไทยทุกระดับที่หยิบยื่นให้จีน ในห้วงเวลาที่จีนกำลังรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19
หวัง กล่าวว่า ไทยและจีนเป็นครอบครัวเดียวกัน หลังเชื้อไวรัสแพร่ระบาดในครั้งนี้ ไทยได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือจีนตั้งแต่ระดับราชวงศ์ รัฐบาล ไปจนถึงภาคส่วนต่างๆ ในสังคม สะท้อนถึงมิตรภาพอันพิเศษระหว่างประชาชนจีนและไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังถ่ายวิดีโอให้กำลังใจประเทศจีน โดยเฉพาะนครอู่ฮั่น
นอกจากนี้ จีนยังชื่นชมที่ไทยเคารพคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ดำเนินมาตรการรับมือที่เหมาะสม มีคำกล่าวว่ายามยากจึงจะเห็นมิตรแท้ เชื่อว่าหลังภัยครั้งนี้ผ่านพ้นไป ความสัมพันธ์ของประชาชนจีนและไทยจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น มิตรไมตรีที่มีมาแต่เดิมย่อมจะลึกซึ้งยิ่งขึ้น