สถานการณ์โควิด 'เกาหลีใต้' ติดกว่าพัน ‘มุน แจ อิน’ ยอมรับเข้าขั้นฉุกเฉิน

ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์โควิด-19 ของประเทศอยู่ในขั้นฉุกเฉินและสั่งระดมสรรพกำลังทั้งหลายทั้งจากกองทัพ ตำรวจ และฝ่ายบริหารเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด โดยมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพในการตรวจหาเชื้อและการติดตามผู้สัมผัส รัฐบาลวางแผนเพิ่มศูนย์ตรวจหาโควิด-19 ในย่านที่มีประชากรอาศัยจำนวนมาก 150 แห่ง เพิ่มจุดตรวจแบบไดรฟ์ทรู และจุดตรวจแบบวอล์กทรู

ประธานาธิบดีมุน ยังบอกด้วยว่า การแพร่ระบาดอย่างหนักครั้งนี้่เป็นวิกฤตสุดท้ายก่อนที่จะมีวัคซีนและยารักษาออกมา นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ชุน เซ-กยุน กล่าวในวันเดียวกันว่า เกาหลีใต้ไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องยกระดับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมสู่ระดับสูงสุดจนกว่าจะควบคุมการระบาดให้ชะลอลงได้

สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ (KDCA) แถลงวันนี้ว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่1,030คน ซึ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 1,002 คน ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 42,766 คน ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ล่าสุดเพิ่มขึ้นอย่างมากจากจาก 950 คนเมื่อวันเสาร์ ที่เดิมเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ประเทศเริ่มมีผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อเดือนม.ค.

เจ้าหน้าที่พบว่า การติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนส่วนใหญ่มาจากการพบปะสังสรรค์ส่วนบุคคล กับการติดเชื้อในวงกว้างตามโบสถ์ และโรงพยาบาลในย่านเมืองใหญ่ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ภายใต้มาตรการใหม่นี้ กำหนดห้ามการรวมกลุ่มเกินกว่า 50 คน ปิดยิมและร้านคาราโอเกะ ร้านอาหารให้บริการแบบดิลิเวอรีได้อย่างเดียวหลังเวลา 21.00 น.แต่หากปรับมาตรการสู่ระดับสูงสุด จะจำกัดการรวมกลุ่มเหลือเพียงไม่เกิน 10 คนปิดโรงเรียน และทุกคนยกเว้นผู้มีความจำเป็นให้ทำงานจากบ้าน