'ตั้งบริษัทโฮลดิ้ง' ทางรอด 'แอนท์ กรุ๊ป'
ธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) สั่งให้ แอนท์ กรุ๊ป บริษัทให้บริการการเงินยักษ์ใหญ่ในเครืออาลีบาบา แก้ไขการทำธุรกิจด้านปล่อยกู้และให้สินเชื่อเพื่อผู้บริโภคอื่น ๆ ซึ่งธนาคารกลางมองว่าผิดระเบียบ รวมทั้งแก้ไขพฤติกรรมกีดกันการแข่งขัน
คำสั่งนี้ของธนาคารกลางจีน มีขึ้นหลังจากหน่วยงานกำกับตรวจสอบของทางการจีนระงับแผนการของแอนท์ กรุ๊ป ที่จะระดมทุนจากสาธารณชนครั้งแรก (ไอพีโอ) พร้อมกันในตลาดเซี่ยงไฮ้และฮ่องกง ซึ่งทำท่าจะได้เงินถึง 37,000 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการสร้างสถิติโลกใหม่ในเรื่องมูลค่าการทำไอพีโอ
นอกจากนั้น คำสั่งนี้ยังมีขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่แล้ว หน่วยงานต่อต้านการผูกขาดของทางการจีนเปิดการสอบสวน อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นกลุ่มกิจการอีคอมเมิร์ซ ที่ก่อตั้งโดย แจ็ค หม่า โดยที่อาลีบาบามีหุ้นในสัดส่วนที่สามารถควบคุมแอนท์ได้
พ่าน กงเซิง รองผู้ว่าพีบีโอซี ระบุว่า การหารือกับตัวแทนของแอนท์เมื่อวันเสาร์ (26 ธ.ค.) ซึ่งนอกจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางแล้ว ยังมีผู้คุมกฎจากหน่วยงานการธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์ การปริวรรตเงินตรา ร่วมหารือด้วย โดยทางการเรียกร้องให้แอนท์แก้ไขการละเมิดกฎระเบียบต่างๆ ในการทำธุรกิจสินเชื่อ ประกันภัย และการบริหารสินทรัพย์ รวมทั้งให้ปรับโครงสร้างธุรกิจจัดอันดับความน่าเชื่อถือ เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค
นอกจากนี้ ทางการจีนยังระบุว่า ปัญหาของแอนท์คือการมีบรรษัทภิบาลต่ำ ไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของทางการ การหาประโยชน์อย่างผิดกฎหมายจากความแตกต่างในการกำกับดูแล การใช้ความได้เปรียบในตลาดบีบคู่แข่ง และการกระทำที่เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ตามกฎหมายของผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม แม้ธนาคารกลางจีน ไม่ได้เรียกร้องให้แอนท์แตกกิจการ แต่พาน ระบุว่า แอนท์ควรจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งแยกต่างหากเพื่อให้มั่นใจว่า มีเงินทุนในระดับเหมาะสมและปฏิบัติตามกฎระเบียบ ที่สำคัญแอนท์ควรขอใบอนุญาตทำธุรกิจสินเชื่อบุคคลอย่างสมบูรณ์ เพิ่มความโปร่งใสในการทำธุรกรรมการชำระเงินของบุคคลที่สาม และไม่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
แอนท์ถูกวิจารณ์ว่ามีเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อที่หละหลวม หรือพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์ยืนยันอย่างแท้จริง นอกจากนั้น ด้วยความที่่มีขนาดใหญ่โต ทำให้ถ้าเกิดปัญหาหนักขึ้นมา จะส่งผลกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
ในส่วนของแอนท์ แถลงว่า จะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขสิ่งที่ไม่ถูกต้องและปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางการอย่างเคร่งครัด
แอนท์ กรุ๊ป เริ่มเป็นที่รู้จักจาก อาลีเพย์ บริการการชำระเงินที่เปิดตัวในปี 2547 และมีอาลีบาบาถือหุ้นในสัดส่วน 33% โดยที่แอพฯอาลีเพย์ครอบงำการชำระเงินระบบดิจิทัลในจีน โดยมีผู้ใช้จำนวนกว่า 730 ล้านคนต่อเดือน และแอนท์ยังสร้างอาณาจักรโดยเชื่อมโยงระหว่างผู้กู้กับผู้ปล่อยกู้ ทำให้ผู้ใช้บริการได้รับอนุมัติเงินกู้ระยะสั้นภายในไม่กี่นาที
อาลีเพย์ พัฒนาบริการชำระเงินออนไลน์ที่มีความเสถียรและน่าเชื่อถือผ่านแอ็พกระเป๋าตังค์ บริการโอนเงินดิจิตัล และบริการชำระค่าสาธารณูปโภค รวมทั้งการชำระเงินในร้านค้าออฟไลน์ ซึ่งครอบคลุมกว่า 50 ประเทศทั่วโลกใน 27 สกุลเงิน ช่วยให้ชาวจีนเกิดความมั่นใจ ได้รับความสะดวก และประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ชาวจีนหลายร้อยล้านคนนิยมใช้บริการ และส่งผลให้อาลีเพย์กลายเป็นแพล็ตฟอร์มโอนเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเวลาต่อมา
เมื่อเดือนที่แล้ว จีนออกกฎป้องกันพฤติกรรมการผูกขาดตลาดของบริษัทอินเทอร์เน็ต และกรมการเมือง ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประกาศว่าปีหน้าจะเพิ่มความพยายามมากขึ้นในเรื่องการป้องกันการผูกขาดตลาด รวมทั้งควบคุมการขยายเงินทุนอย่างไร้ระบบ
ด้วยความเคลื่อนไหวดังกล่าว ส่งผลให้ในเดือนนี้ บรรดาบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีนเตรียมถูกตรวจสอบแบบเข้ม หลังจากถูกปรับและถูกสอบสวนแผนผนวกกิจการ โดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับอาลีบาบาและเทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า หม่าได้รับคำแนะนำจากรัฐบาลจีนให้งดเดินทางออกนอกประเทศในช่วงนี้
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนมีความเห็นว่าคำสั่งของพีบีโอซีครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย “ชาง ซีฮัว” ผู้บริหารสูงสุดทางด้านการจัดการการลงทุน บริษัทระบบบริการจัดการทรัพย์สินยุนยี แอสเซท คาดการณ์ว่า รัฐบาลจีนจะเล่นงานอาลีบาบา และแอนท์ กรุ๊ป ต่อ ถึงแม้จะมีการปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจแล้ว ทำให้นักลงทุนเป็นห่วงอย่างมาก