'อังค์ถัด'เผยจีนมียอดเอฟดีไอสูงสุดปี 63
'อังค์ถัด'เผยจีนมียอดเอฟดีไอสูงสุดปี 63 ขณะเอฟดีไอทั่วโลกในปี 2563 ทรุดตัวลง 42% สู่ระดับ 8.59 แสนล้านดอลลาร์
การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) เปิดเผยว่า ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ทั่วโลกในปี 2563 ทรุดตัวลง 42% สู่ระดับ 8.59 แสนล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2562 พร้อมกับเตือนว่า ตัวเลขเอฟดีไอทั่วโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงอีกในปี 2564 เนื่องจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาด
รายงานของอังค์ถัด ระบุว่า ยอดเอฟดีไอในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วร่วงลงอย่างหนักถึง 69% สู่ระดับ 2.29 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2563 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 25 ปี ขณะที่ตัวเลขเอฟดีไอ ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาปรับตัวลง 12% สู่ระดับ 6.16 แสนล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี จีนมียอดเอฟดีไอในปี 2563 สูงที่สุดในโลก โดยอยู่ที่ 1.63 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่ายอดเอฟดีไอของสหรัฐซึ่งอยู่ที่ 1.34 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัวขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 หลังประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนในปี 2563 ให้ขยายตัว 2.3% ส่งผลให้จีนกลายเป็นประเทศขนาดใหญ่ประเทศเดียวในโลกที่สามารถรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2563
ทั้งนี้ จีนทำสถิติกวาดยอดเอฟดีไอแซงหน้าสหรัฐในปี 2563 หลังจากเมื่อปี 2562 สหรัฐมียอดเอฟดีไอมูลค่า 2.51 แสนล้านดอลลาร์ นำหน้าจีนซึ่งมียอดเอฟดีไอเพียง 1.40 แสนล้านดอลลาร์