‘เฮดจ์ฟันด์’ขาดทุนกว่า 5 แสนลบ.จากบทเรียนGameStop
สื่อรายงานว่า ปรากฎการณ์ GameStop ซึ่งกำลังสร้างความผันผวนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ได้ส่งผลกระทบให้กองทุนเก็งกำไร หรือเฮดจ์ฟันด์ ประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก โดยคาดว่าสูงถึง 19,000 ล้านดอลลาร์ในขณะนี้ หรือราว 570,000 ล้านบาท
ราคาหุ้น GameStop ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐ พุ่งขึ้นมากกว่า 1,500% ในปีนี้ โดยมีสาเหตุจากการรวมตัวกันของนักลงทุนรายย่อยของสหรัฐเพื่อสั่งสอนกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ที่มักเก็งกำไรด้วยการขายชอร์ตในตลาด
กลุ่มนักลงทุนใน WallStreetBets ซึ่งเป็นบอร์ดย่อยใน Reddit ซึ่งเป็นเว็บบอร์ดที่มีสมาชิกกว่า 4 ล้านราย และเป็นแหล่งที่นักลงทุนรายย่อยมักเข้าสนทนาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการซื้อขายหุ้นในตลาด ได้เล็งเป้าหมายที่จะผลักดันราคาหุ้น GameStop ให้สูงขึ้นเพื่อกดดันให้เฮดจ์ฟันด์ต้องกลับเข้าซื้อคืนหุ้นดังกล่าวเพื่อตัดขาดทุน หลังจากที่ได้ขายชอร์ตก่อนหน้านี้ โดยเก็งว่า GameStop จะต้องปิดกิจการในไม่ช้า
การกระทำดังกล่าวของนักลงทุนรายย่อยทำให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก โดยคาดว่าในวันพุธเพียงวันเดียว เฮดจ์ฟันด์ขาดทุนมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในวันดังกล่าว ราคาหุ้น GameStop ได้พุ่งขึ้น 135%
ขณะนี้ มีความวิตกกันว่า หากหุ้น GameStop ยังคงพุ่งขึ้นต่อไป ก็จะทำให้เฮดจ์ฟันด์พากันเทขายหุ้นอื่นในตลาดเพื่อระดมเงินมาชดเชยผลขาดทุนจากการเก็งกำไรใน GameStop
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลกันว่า ปรากฎการณ์ GameStop เป็นการส่งสัญญาณถึงการเกิดภาวะฟองสบู่ในตลาด ซึ่งหากฟองสบู่แตก ก็จะสร้างความตื่นตระหนก และกระทบนักลงทุนรายย่อยอย่างหนัก
ขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายหุ้นได้พุ่งขึ้นอย่างมากจากการที่นักลงทุนแห่ซื้อหุ้น GameStop โดยวอลุ่มการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้พุ่งขึ้นมากกว่า 2.37 หมื่นล้านหุ้นเมื่อวันพุธ โดยสูงกว่าระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ในช่วงเกิดวิกฤตการเงินในปี 2551 ขณะที่วอลุ่มซื้อขายเมื่อวานนี้สูงกว่า 1.9 หมื่นล้านหุ้น
ราคาหุ้น GameStop พุ่งขึ้น 70% ในวันนี้ หลังจากปิดตลาดวานนี้ดิ่งลง 44% สู่ระดับ 193.60 ดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ ราคาหุ้น GameStop มีการซื้อขายที่ระดับ 2.80 ดอลลาร์/หุ้นในเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งในขณะนั้น บริษัทประกาศว่าจะปิดสาขามากกว่า 300 สาขา ท่ามกลางปัญหาหนี้สินจำนวนมากที่บริษัทเผชิญอยู่
การดีดตัวกลับขึ้นของหุ้น GameStop ในวันนี้ มีสาเหตุจากการที่ Robinhood ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ออนไลน์ ซึ่งให้บริการซื้อขายหุ้นผ่านแอปพลิเคชั่นโดยไม่คิดค่าธรรมเนียม และมีผู้ใช้บริการมากกว่า 13 ล้านราย ได้ประกาศยกเลิกการบล็อกหุ้น GameStop โดยอนุญาตให้นักลงทุนสามารถซื้อหุ้นดังกล่าวได้ในวงจำกัด หลังจากที่เมื่อวานนี้ ทางบริษัทออกกฎจำกัดการซื้อขายหุ้น GameStop โดยกำหนดมาร์จิ้นที่สูงขึ้น และอนุญาตให้นักลงทุนสามารถขายหุ้นที่ถือครองอยู่ แต่จะไม่สามารถซื้อหุ้นใหม่ได้ โดย Robinhood ระบุว่ามาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อสกัดความผันผวนของราคาหุ้นในตลาด
" เราจะอนุญาตให้นักลงทุนสามารถซื้อหุ้นได้ในวงจำกัดตั้งแต่วันนี้ และเราจะยังคงจับตาสถานการณ์ และอาจทำการปรับเปลี่ยนกฎการซื้อขายตามความจำเป็น" แถลงการณ์ของ Robinhood ระบุ
Robinhood ระบุว่า บริษัทตัดสินใจจำกัดการซื้อขายหุ้นก่อนหน้านี้ เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (กลต.) และเพื่อปกป้องนักลงทุน
อย่างไรก็ดี ผู้ใช้บริการของ Robinhood ได้ยื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐวานนี้ หลังจากที่ Robinhood ได้ทำการบล็อกนักลงทุนมิให้เข้าซื้อหุ้น GameStop
นายเบรนดอน เนลสัน ได้ยื่นคำฟ้องดังกล่าวต่อศาลแขวงสหรัฐในแมนฮัตตัน โดยระบุว่า “Robinhood ได้ทำการบล็อกหุ้น GameStop ด้วยความจงใจและเจตนาที่จะปั่นตลาด โดยได้ละเมิดสัญญาด้วยการไม่ยอมเปิดเผยว่าทางบริษัทกำลังสุ่มถอดหุ้นที่สามารถทำกำไรออกจากแพลทฟอร์มการซื้อขาย”
นายเนลสันอ้างว่า การกระทำของ Robinhood ทำให้เขาสูญเสียโอกาสในการเข้าซื้อหุ้น GameStop ขณะที่ราคาหุ้นกำลังทะยานขึ้น
นายเนลสันยังได้ร้องต่อศาลเพื่อให้ Robinhood ยกเลิกการบล็อกหุ้น GameStop โดยทันที และให้มีการจ่ายเงินชดเชยแก่นักลงทุน
ทางด้านทนายความของนายเนลสันกล่าวว่า ยังมีนักลงทุนอีกหลายร้อยคนที่ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อเป็นโจทก์ร่วมในการยื่นฟ้อง Robinhood