'พินตัวตัว'รุกเกษตรไฮเทค-เพิ่มประสิทธิภาพซัพพลายเชน

'พินตัวตัว'รุกเกษตรไฮเทค-เพิ่มประสิทธิภาพซัพพลายเชน

“พินตัวตัว” ค้าปลีกออนไลน์ชื่อดังของจีน ประกาศแผนลงทุนเทคโนโลยีด้านการเกษตรเพื่อปรับปรุงความสามารถด้านการผลิตของเกษตรกรในประเทศจำนวน 65ล้านคนและเพิ่มประสิทธิภาพแก่ระบบห่วงโซ่อุปทาน

“ลิ้ม ซิน-ยี่” ผู้อำนวยการบริหารแผนกการเติบโตอย่างยั่งยืนและผลกระทด้านการเกษตรของพินตัวตัว ให้สัมภาษณ์เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชีย ว่าการเสนอสินค้าเกษตรผ่านระบบดิจิทัลเป็นโอกาสสำคัญในอนาคตที่จะช่วยให้บริษัทเติบโตเหนือบรรดาคู่แข่ง โดยปัจจุบัน บริษัท ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร๋จมานาน 5 ปี มีผู้ใช้ 700ล้านคนและมีมูลค่าใกล้แตะระดับ 200,000 ล้านดอลลาร์

ตามปกติแล้ว การผลิตและจำหน่ายของสดจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทางออนไลน์ได้ในจำนวนที่น้อยกว่าไม่เหมือนเสื้อผ้าและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ แต่เซ็คเมนท์นี้กลายเป็นสนามรบที่ดุเดือดที่สุดสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากผู้บริโภคพากันหันมาซื้อของชำทางออนไลน์ในช่วงที่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19และแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไปแม้ว่าจีนจะสามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19ได้แล้ว

ช่วงปลายปี2563 กลุ่มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ รวมถึงอาลีบาบา เหม่ยถ้วน เจดีดอทคอม และแม้แต่ ติตี้ ชูสิง บริษัทเรียกรถจับจ้างก็เริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากฟาร์ม โดยอาหารสดที่ผู้บริโภคสั่งซื้อทางออนไลน์ ซึ่งตามปกติจะสั่งซื้อในปริมาณมากจะถูกส่งไปยังที่ต่างๆให้ถึงมือผู้บริโภคตามที่บอกพิกัดไว้ภายใน 24 ชั่วโมงโดยบรรดาผู้ประสานงานพาร์ทไทม์

สำหรับผู้ดำเนินการแล้ว ประเด็นการรักษาคุณภาพผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆที่จะช่วยให้สามารถแข่งขันได้โดยเฉพาะในยุคที่เกษตรกรชาวจีนส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย พินตัวตัวจึงมองว่าความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้

“ในด้านเทคโนโลยีอาหารและการเกษตร เรามองหาความเป็นหุ้นส่วนและลงทุนระดับโลก เราแค่ต้องการมั่นใจว่ามีความสามารถด้านการผลิตหรือระบบห่วงโซ่อุปทานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นทำอะไรใหม่อีก”ผู้อำนวยการบริหารแผนกการเติบโตอย่างยั่งยืนและผลกระทด้านการเกษตรของพินตัวตัว กล่าว

ลิ้ม กล่าวว่า บริษัทสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงกับความปลอดภัยด้านอาหาร การเกษตรที่มีความถูกต้องแม่นยำ และการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ และบริษัทเตรียมนำความก้าวหน้าด้านต่างๆเหล่านี้มาที่จีนผ่านการลงทุน ความร่วมมือในการวิจัยหรือเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ พร้อมทั้งบอกว่า พินตัวตัว เปิดกว้างที่จะเข้าซื้อกิจการบริษัทสตาร์ทอัพด้านการเกษตรที่สนใจร่วมงานกับบริษัท

นอกจากให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีก้าวหน้าแล้ว พินตัวตัว ยังจัดทำโครงการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะในการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซในท้องถิ่นด้วย โดยนับจนถึงเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว พินตัวตัว ได้จัดหาคอร์สอบรมเกษตรกรใหม่จำนวนกว่า 1 แสนคนที่ทิ้งบ้านเกิดในชนบทไปทำงานในเมืองใหญ่ต่างๆ โดยปัจจุบันนี้ มีเกษตรกรจำนวนมากหวนกลับบ้านเกิดเพื่อเริ่มหรือมีส่วนร่วมกับการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

แต่การขยายตัวอย่างรวดเร็วเข้าไปในภาคเกษตรกรรมของบรรดายักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตจีน ที่บ่อยครั้งไปพร้อมกับการอุดหนุนแบบผู้ใหญ่ใจดีแก่บรรดานักช็อปและซัพพลายเออร์ก็สร้างความกังขา ระแวดระวังในหมู่ข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล

โดยหน่วยงานเฝ้าระวังด้านการต่อต้านการผูกขาดตลาด ได้สั่งปรับพินตัวตัว เหม่ยถ้วน และผู้ค้าทางออนไลน์อีก 3แห่งในเดือนนี้เป็นเงินระหว่าง 500,000 หยวนและ 1.5 ล้านหยวน(77,000 ดอลลาร์และ231,000 ดอลลาร์)ในฐานะที่กำหนดราคาสินค้าอย่างไม่เหมาะสมจนเกิดการขายสินค้าตัดราคาธุรกิจรายเล็ก