‘ซิตี้’ จ่อขายธุรกิจลูกค้ารายย่อย 13 ตลาด รวม ‘ไทย’
“ซิตี้กรุ๊ป” แบงก์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ประกาศแผนขายธุรกิจลูกค้ารายย่อย หรือ บุคคลธนกิจ ในตลาดต่างประเทศ 13 แห่ง รวมถึง “ไทย” และ “จีน” เพื่อหันไปเน้นธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง หลังรายได้จากสินเชื่อลดลง
นางเจน เฟรเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทซิตี้กรุ๊ป ผู้ให้บริการทางการเงินรายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐ แถลงในวันพฤหัสบดี (15 เม.ย.) ว่า ผลจากปรับกลยุทธ์ใหม่ที่ยังดำเนินต่อเนื่อง บริษัทจึงตัดสินใจขายธุรกิจบุคคลธนกิจ (Consumer Banking) ส่วนใหญ่ในเอเชียและยุโรปตะวันออก เพื่อหันไปโฟกัสธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (เวลธ์) มากขึ้น
“แม้ 13 ตลาดเหล่านี้มีหลายธุรกิจที่ยอดเยี่ยม แต่เราไม่มีกำลังมากพอที่จะไปแข่งขันในตลาดเหล่านี้ได้” ซีอีโอคนใหม่ของซิตี้กรุ๊ป ซึ่งรับตำแหน่งเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา กล่าว
ซิตี้กรุ๊ป เผยว่า ตลาดต่างประเทศที่บริษัทจะขายธุรกิจลูกค้ารายย่อย ได้แก่ ออสเตรเลีย, บาห์เรน, จีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, รัสเซีย, ไต้หวัน, ไทย และเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ยืนยันว่า ความเคลื่อนไหวนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจลูกค้าสถาบันธนกิจในประเทศเหล่านี้
ขณะเดียวกัน ธุรกิจบุคคลธนกิจและธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของซิตี้กรุ๊ป จะยังดำเนินการตามปกติผ่านฮับ 4 แห่ง ได้แก่ สิงคโปร์, ฮ่องกง, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และกรุงลอนดอนของอังกฤษ
ก่อนหน้านี้ ซิตี้รายงานว่า รายได้ลดลง 7% ในไตรมาสแรก ส่วนใหญ่เป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยต่ำและความต้องการขอสินเชื่อซบเซา ซึ่งถูกชดเชยด้วยรายได้จากค่าธรรมเนียมด้านวาณิชธนกิจที่เติบโตอย่างมาก
ขณะที่รายได้สุทธิของทั้งเครือซิตี้กรุ๊ป อยู่ที่ 7,900 ล้านดอลลาร์ หรือ 3.62 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 2,500 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.06 ดอลลาร์ต่อหุ้นเมื่อปีที่แล้ว
เมื่อเดือน ก.พ. เว็บไซต์บลูมเบิร์ก รายงานว่า ซิตี้กำลังตัดสินใจที่จะขายธุรกิจบุคคลธนกิจในตลาด 12 แห่ง รวมถึงไทย และกำลังอยู่ในขั้นตอนการหาผู้ซื้อธุรกิจเหล่านี้ในแต่ละประเทศ หลังจากกฎเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลการเงินของสหรัฐ ทำให้บริษัทต้องยกเครื่องโครงสร้างธุรกิจใหม่หมด
สำหรับธุรกิจบุคคลธนกิจของซิตี้ ซึ่งรวมถึงบริการสินเชื่อและบัตรเครดิต มีลูกค้ามากถึง 16 ล้านราย และธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง มีลูกค้าราว 4 แสนรายทั่วโลก