สกัดระลอก 4! ‘เกาหลีใต้’ไฟเขียวประชาชนใช้‘ชุดตรวจโควิด’ด้วยตนเอง
เกาหลีใต้อนุมัติอย่างมีเงื่อนไข ให้ประชาชนใช้ชุดตรวจโควิดด้วยตนเองได้เป็นครั้งแรก หลังผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจนมีเสียงเรียกร้องให้เพิ่มการตรวจหาเชื้อ
กระทรวงความปลอดภัยในการใช้ยาของเกาหลีใต้แถลงว่า กระทรวงอนุญาตให้ประชาชนใช้ชุดตรวจโควิดด้วยตนเองของบริษัทเอสดีไบโอเซนเซอร์ และฮิวแมซิส ได้ โดยมีเงื่อนไขว่า ทังสองบริษัทจะต้องมอบข้อมูลการทดลองทางคลินิกผลการตรวจด้วยตนเองให้กระทรวงภายในสามเดือน
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวใช้ได้ในประเทศยุโรปตั้งแต่ปีก่อน แต่เกาหลีใต้จำกัดให้ใช้กับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เท่านั้น
กระทรวงระบุด้วยว่า ชุดตรวจนี้ทราบผลได้ภายใน 15 นาที แม่นยำ 90% เทียบกับการตรวจ PCR และเรพิดเทสต์โดยผู้เชี่ยวชาญที่แม่นยำ 98%
“แม้ว่าความแม่นยำต่างกัน แต่จำเป็นต้องใช้ชุดตรวจนี้มาเป็นเครื่องมือเสริม ถ้าการตรวจพีซีอาร์เปรียบเสมือนการทดสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์ให้ผลเกือบ 100% ชุดตรวจด้วยตนเองก็เหมือนการทดสอบด้วยตาเปล่า” นายฮอง นัมกี รักษาการนายกรัฐมนตรีกล่าวในการแถลงข่าวความคืบหน้าจัดการโควิด
การตัดสินใจของกระทรวงความปลอดภัยในการใช้ยาเกิดขึ้นหลังจากเกิดคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ จนรัฐบาลต้องบังคับใช้มาตรการเว้นระยะที่เข้มงวดขึ้น เพื่อไม่ให้ประเทศต้องเข้าสู่การระบาดระลอก 4
ขณะเดียวกันหน่วยงานสาธารณสุขเตือนว่า การใช้ชุดตรวจด้วยตนเองถ้าไม่ได้ทำโดยมืออาชีพอาจเสี่ยงได้ผลผิดเป็นลบ เมื่อเร็วๆ นี้ทางการจึงสนับสนุนให้ใช้ได้อย่างจำกัด
เจ้าหน้าที่บางคนแนะนำให้ใช้ในบ้าน ร้านอาหาร ร้านค้า ศาสนสถาน เนื่องจากเป็นวิธีตรวจหาการติดเชื้อได้ง่ายและรวดเร็ว
ผลการสำรวจความคิดเห็นของแกลลัพเกาหลีวันนี้ พบว่าเป็นครั้งแรกที่ประชาชนให้คะแนนการจัดการโควิดของรัฐบาลติดลบ จากที่เคยชื่นชมถึง 85% เมื่อเดือน พ.ค.ปีก่อน ที่ตอนนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังเป็นแค่เลขหลักเดียว
สื่อเองก็วิจารณ์ว่ารัฐบาลจัดหาวัคซีนมาไม่มากพอ ฉีดไปได้แค่ 3% ของประชากรเนื่องจากซัพพลายตึงตัว การเข้าถึงวัคซีนจำกัด
ขณะนี้ประชาชนในเกาหลีใต้ราว 2 ล้านคนฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว รัฐบาลตั้งเป้าฉีดได้อีก 1 ล้านคนภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อให้ครอบคลุม 12 ล้านคนในช่วงครึ่งปีแรก
เมื่อวันพฤหัสบดี (22 เม.ย.) เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 797 คน สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. ตอนที่ระลอก 3 เริ่มเบาบาง จากที่เคยติดเชื้อรายวันสูงเกิน 1,200 คนในปลายเดือน ธ.ค.
รวมทั่วประเทศจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 117,458 คน เสียชีวิต 1,811 คน