‘ซีดีซี’ เรียกร้อง ‘วัยรุ่นอเมริกัน’ ฉีดวัคซีนโควิด พบเข้ารักษา ร.พ.สูง
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ เรียกร้องให้กลุ่มเด็ก และวัยรุ่น ฉีดวัคซีนโควิด-19 มากขึ้น หลังพบติดเชื้อ และเข้ารักษาในโรงพยาบาลเพิ่มสูง
โรเชล วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐ เรียกร้องให้ผู้ปกครองเร่งนำบุตรหลานวัยเด็ก และวัยรุ่นให้เข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 หลังผลการศึกษาล่าสุดของซีดีซี ระบุว่า มีผู้เยาว์เข้ารับการรักษาโรคโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลมากขึ้น
สำนักข่าววีโอเอ รายงานว่า ผลการศึกษาดังกล่าวระบุว่า จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในสหรัฐ ในวัย 12-17 ปี เพิ่มสูงขึ้นในช่วงเดือน ม.ค. - เม.ย. 2564 โดยผู้ป่วย 1 ใน 3 เข้ารับการรักษาในแผนกผู้ป่วยวิกฤติ และผู้ป่วยจำนวน 5% ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แม้ว่าจะไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตก็ตาม
วาเลนสกี ระบุในแถลงการณ์ว่า เธอรู้สึกเสียใจกับจำนวนผู้ป่วยดังกล่าว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เชื้อไวรัสทำให้เกิดอาการรุนแรงได้แม้ผู้ติดเชื้อจะมีอายุน้อย โดยผลการศึกษาดังกล่าวน่าจะช่วยกระตุ้นให้วัยรุ่นเข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้น
ผู้อำนวยการซีดีซี กล่าวเตือนว่า ทั้งผู้ปกครอง ญาติ และเพื่อนสนิทควรช่วยกันพูดคุยกับกลุ่มวัยรุ่น เกี่ยวกับความสำคัญของยุทธศาสตร์ป้องกันการระบาดและเชิญชวนให้พวกเขาเข้ารับวัคซีน
ผลการศึกษาฉบับนี้ระบุว่า อัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น อาจเกี่ยวข้องกับการระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ และการที่เด็กๆ กลับเข้าเรียนในโรงเรียนหรือเข้าร่วมกิจกรรมในร่มมากขึ้น จะต้องรักษาระยะห่างทางสังคมและกฎการใส่หน้ากาก
เมื่อเดือนที่แล้ว องค์การอาหารและยาสหรัฐ อนุมัติให้ใข้วัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์ ในกลุ่มวัยรุ่นได้ โดยระบุว่า วัคซีนชนิดนี้ปลอดภัย และได้ผลต่อการป้องกันโรคและการเข้ารักษาโรงพยาบาลในกลุ่มวัยรุ่น