'3สายการบินสหรัฐ'เร่งเพิ่มเที่ยวบินรับแผนเปิดประเทศ

3 สายการบินชั้นนำอเมริกันเร่งเพิ่มเที่ยวบินใหม่เส้นทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก หลังสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งประกอบด้วย 27 ประเทศสมาชิก ให้การรับรอง ข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรป อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ในประเด็นผ่อนคลายมาตรการจำกัดการท่องเที่ยวสำหรับชาวต่างชาติ ก่อนฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงซึ่งอยู่ในช่วงดือนมิ.ย.ถึงเดือนส.ค.

สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ เดลตา แอร์ไลน์ และยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พยายามกระตุ้นรายได้และระงับภาวะขาดทุนที่ขณะนี้คาดว่าจะสูงถึง 32,000 ล้านดอลลาร์ โดยหวังว่าการเปิดประเทศรับบรรดานักท่องเที่ยวจากสหรัฐและชาติอื่นๆเข้าประเทศอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมาของประเทศที่พึ่งพารายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างโครเอเชีย กรีซ ไอซ์แลนด์ และอิตาลี จะช่วยกอบกู้วิกฤตที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมการบินสหรัฐได้

เดลตา แอร์ไลน์เริ่มเปิดเที่ยวบินจากบอสตันไปกรุงเรกยาวิค เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ก่อนจะเริ่มให้บริการเที่ยวบินแบบบนอน-สต็อปจากมินนีอาโพลิสไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ในอีก1สัปดาห์ต่อมา

ด้านสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เริ่มให้บริการเที่ยวบินจากนวร์กศูนย์กลางการบินในนิว เจอร์ซีย์ไปดูบรอฟนิกประเทศโครเอเชีย เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. นอกจากนี้ สายการบินมีแผนเพิ่มเที่ยวบินจากวอชิงตัน-ดัลลัสไปกรุงเอเธนส์ช่วงเดือนก.ค.-ต.ค.ในเดือนหน้า เพิ่มเติมจากเส้นทางบินจากนวร์กที่เริ่มเมื่อต้นเดือนนี้

สายการบินทั้งสามแห่งยังเร่งเพิ่มเที่ยวบินไปยังสเปน โปรตุเกส และอิตาลีด้วยหลังจากประเทศเหล่านี้เปิดประเทศ ยกตัวอย่างเช่น สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ เพิ่มบริการเที่ยวบินจากฟิลาเดลเฟียไปเอเธนส์ในข่วงครึ่งหลังของเดือนส.ค.และไปโรม โดยเริ่มจากฟิลาเดลเฟียและชิคาโกในเดือนก.ย. พร้อมคาดการณ์ว่าจะกลับมาให้บริการในเส้นทางบินต่างๆอย่างเต็มรูปแบบในช่วงฤดูร้อนปีหน้า

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา อียู ได้มีคำแนะนำไปยังประเทศสมาชิกของอียูให้ยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 สำหรับนักเดินทางที่มาจากสหรัฐ เพื่อให้นักท่องเที่ยวอเมริกันเดินทางมายังยุโรปได้ง่ายขึ้นในช่วงฤดูร้อนปีนี้ ซึ่งผู้แทนประเทศสมาชิกอียู ตกลงว่าจะเพิ่มสหรัฐ ในรายชื่อประเทศที่ควรยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 ด้วย หลังจากที่ใช้มาตรการห้ามชาวอเมริกันทั่วไปที่จะเดินทางเข้าไปยังสหภาพยุโรปมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

อียูระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้พิจารณาจากอัตราการฉีดวัคซีนในสหรัฐ รวมทั้งปัจจัยอื่น ๆ ที่ชี้ว่าสถานการณ์การระบาดในสหรัฐกำลังบรรเทาลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากสหรัฐแล้ว ที่ประชุมของอียู ยังเพิ่มประเทศเซอร์เบีย อัลแบเนีย เลบานอน มาเซโดเนียเหนือ และไต้หวัน ไว้ในรายชื่อประเทศที่ควรยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 สำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้าไปในอียูด้วย

อย่างไรก็ตาม คำแนะนำดังกล่าวของอียูไม่มีผลบังคับผูกพัน และขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลประเทศสมาชิกอียูแต่ละประเทศ ซึ่งอาจกำหนดให้ต้องมีการตรวจหาเชื้อผู้ที่เดินทางมาจากสหรัฐเสียก่อน หรืออาจต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

การตัดสินใจล่าสุดของอียูเป็นหนึ่งในความพยายามกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของยุโรปที่ซบเซาลงไปตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 และที่ผ่านมา อียูอนุมัติให้ใช้หนังสือเดินทางวัคซีนแบบดิจิทัล ที่อนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วสามารถเดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศสมาชิกอียู 27 ประเทศได้อย่างสะดวกมากขึ้น

“แพทริค เควล” รองประธานเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศและพันธมิตรของสายการบินยูไนเต็ด กล่าวว่า ความต้องการเดินทางไปดูบรอฟนิก โครเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดใหม่สำหรับสายการบินเพิ่มขึ้นมากหลังจากสายการบินประกาศให้บริการเที่ยวบินนี้

ขณะที่“ไบรอัน ซีโนทินส์” รองประธานเครือข่ายและการวางแผนเที่ยวบินของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ กล่าวว่า ก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ผู้โดยสารมักจองตั๋วเดินทางล่วงหน้า 8-12 เดือนแต่ตอนนี้ จองตั๋วเดินทางล่วงหน้าแค่ 2-3 เดือนเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ทีมงานด้านการตลาดของสายการบินจึงต้องวางแผนและทำงานอย่างรวดเร็วให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป