‘เทเลนอร์’ ขายบริษัทลูก ‘โบกมือลาเมียนมา’

เทเลนอร์เลิกทำธุรกิจในเมียนมา ทำข้อตกลงขายบริษัทลูก “เทเลนอร์เมียนมาร์” ให้กับเอ็มวันกรุ๊ป ด้วยมูลค่า 105 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้เครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐานและไร้สายดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้รอทางการเมียนมาอนุมัติการขาย 

นายซิกเว เบรกเก ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารเทเลนอร์ เผยในแถลงการณ์ “สถานการณ์ในเมียนมาช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ท้าทายเทเลนอร์มากขึ้นในแง่ความมั่นคงของประชาชน กฎระเบียบ และเหตุผลในการปฏิบัติตาม เราได้ประเมินทุกทางเลือกแล้ว เชื่อว่าการขายบริษัทเป็นทางออกที่ดีที่สุดในสถานการณ์นี้”

เทเลนอร์เข้ามาทำธุรกิจในเมียนมาตั้งแต่ปี 2557 จ้างงานทั่วประเทศราว 750 คน ในไตรมาส 1 ของปีนี้ บริษัทขาดทุนหลังถูกบังคับลดค่าสินทรัพย์ทั้งหมดในเมียนมา จาก 769 ล้านดอลลาร์เหลือ 0

หลังมีการรัฐประหารในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา องค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) เรียกร้องให้บริษัทต่างชาติทบทวนการทำธุรกิจในเมียนมา

ส่วนเอ็มวันกรุ๊ปเป็นบริษัทโฮลดิงก่อตั้งโดยนายนาจิบ อัซมี มิกาติ อดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอนและน้องชาย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในเอ็มทีเอ็น ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือชั้นนำในแอฟริกาและดำเนินการในเอเชียด้วยโดยเอ็มวัน มีชื่ออยู่ในบัญชีดำของเบอร์มาแคมเปญยูเค ที่จับตาความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างกองทัพเมียนมากับบริษัทต่างชาติด้วย

รายงานเมื่อปี 2562 ของคณะกรรมการค้นหาความจริงอิสระ เสนอต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติว่าด้วยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของกองทัพเมียนมา ระบุว่า เอ็มวันกรุ๊ปมีหุ้นในบริษัทแห่งหนึ่ง ที่เช่าหอสัญญาณมือถือให้เอ็มอีซี บริษัทของกองทัพเจ้าของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือมายเทล