‘เคธี โฮชู’ ผู้หญิงคนแรก นั่งผู้ว่าฯนิวยอร์ก ในประวัติศาสตร์รัฐ 233 ปี
การประกาศลาออกของ “แอนดรูว์ คัวโม” ในฐานะผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก หลังเผชิญข้อกล่าวหาอื้อฉาวว่าล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาว 11 ราย ได้ทำให้สปอร์ตไลท์หันไปฉายที่ “เคธี โฮชู” จะกลายเป็นผู้หญิงคนแรก ก้าวสู่เก้าอี้ผู้นำรัฐนิวยอร์กในประวัติศาสตร์ 233 ปี
นางโฮชู อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต และอยู่ในตำแหน่งรองผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ตั้งแต่ปี 2558 จะขึ้นมาทำหน้าที่ผู้ว่าฯรัฐนิวยอร์ก แทนนายคัวโม จนกระทั่งวาระของเขาจะสิ้นสุดลงในเดือน ธ.ค.2565
นี่คือเรื่องจริงบางประการที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ชื่อ “เคธี โฮชู” !!
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: ผู้ว่าฯ 'นิวยอร์ก' ลาออก! เซ่นปมล่วงละเมิดหญิง 11 คน
นายคัวโมได้ขอให้นางโฮชู ดาวรุ่งพุ่งแรงจากพรรคเดโมแครต เข้าร่วมทีมผู้ว่าฯนิวยอร์กในปี 2557 หลังจากที่นายโรเบิร์ต ดัฟฟี่ รองผู้ว่าฯนิวยอร์กในขณะนั้น ประกาศยุติบทบาท ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนั้น นายคัวโม จับมือนางโฮชู คว้าชัยชนะเลือกตั้งในปี 2557 และสมัยถัดไปคือปี 2561
บทบาทนางโฮชู ในฐานะรองผู้ว่าฯนิวยอร์ก ยังเป็นประธานสภาพัฒนาเศรษฐกิจจำนวน 11 แห่ง ที่ลงทุนในโครงการต่างๆ ทั่วรัฐนิวยอร์ก และนางโฮชู ยังเป็นประธานร่วมคณะทำงานเพื่อต่อต้านการใช้เฮโรอีนและฝิ่น รวมทั้งเป็นผู้นำในการรณรงค์ "ความพอเพียงคือเพียงพอ" (Enough is Enough) ของนายคัวโม เมื่อปี 2561 เพื่อต่อสู้กับ "การล่วงละเมิดทางเพศ" ในวิทยาเขตของวิทยาลัยต่างๆ
นางโฮชู สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยซีราคัวส์ ในนครนิวยอร์กปี 2523 และได้รับปริญญาด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยคาธอลิกในกรุงวอชิงตันในปี 2527
นางโฮชู เคยทำงานในสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่งในวอชิงตัน ซึ่งเธอทำหน้าที่ผู้ช่วยด้านกฎหมายให้กับนายจอห์น ลาฟาลส์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐนิวยอร์ก และแดเนียล แพทริค มอยนิฮาน วุฒิสมาชิกและบุคคลสำคัญทางการเมืองของรัฐ โดยในช่วงเวลาที่เธออยู่ในสภาคองเกรส นางโฮชูช่วยร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปการเงินของการหาเสียงและการโยกย้ายถิ่นฐาน
นางโฮชู ดูแลรับใช้เมืองฮัมบูร์ก ทางใต้ของบัฟฟาโล เมืองใหญ่อันดับสองรองนิวยอร์ก ในฐานะสมาชิกสภาเป็นเวลา 14 ปี โดยขณะนั้น เธอได้รับแต่งตั้งเป็นเสมียนอีรีเคาน์ตี้ ไปจนถึงปี 2553
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า นางโอชูให้นิยามความเป็นตัวตนของเธอว่า “independent Democrat” ซึ่งนางโฮชู เป็นหนึ่งในสมาชิกพรรคเดโมแครต 17 คนที่เข้าร่วมกับพรรครีพับลิกัน ในการสืบหาความจริงคดีนายเอริค โฮลเดอร์ อัยการสูงสุดของสหรัฐที่ดูหมิ่นสภาคองเกรส เกี่ยวกับการระงับเอกสาร ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อ Operation Fast and Furious