ผลศึกษาพบ'กวางหางขาว'ในสหรัฐติดโควิดก่อนระบาดสู่มนุษย์
ซีซีทีวีของจีน รายงานผลการศึกษาล่าสุดในสหรัฐ พบแอนติบอดีที่ต่อสู้กับเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 ในตัวอย่าง 40% ที่ได้มาจากกวางหางขาวในปี 2564 รวมถึงตัวอย่างหนึ่ง ที่มาจากปี 2562 หรือก่อนที่จะมีรายงานว่าพบผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่
การศึกษานี้ดำเนินการโดยนักวิจัยกระทรวงการเกษตรสหรัฐ เป็นการวิเคราะห์ตัวอย่าง 624 ตัวอย่างจากกวางหางขาวในรัฐอิลลินอยส์ มิชิแกน นิวยอร์ก และเพนซิลเวเนียในปี 2564 ซึ่งการวิเคราะห์ครั้งนี้ทำให้พบแอนติบอดีต่อต้านเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 อยู่ในตัวอย่าง 152 ตัวอย่าง หรือประมาณ 40 % และข้อมูลแสดงให้เห็นว่ากวางหางขาวในกลุ่มที่ประเมิน ได้รับเชื้อไวรัส SARS-CoV-2
การศึกษาที่เผยแพร่อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ bioRxiv ก่อนนำออกเผยแพร่ทั่วไปเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ยังพบว่ามีแอนติบอดีใน 3 ตัวอย่างจากปี 2563 และอีกหนึ่งตัวอย่างจากปี 2562
การที่สหรัฐมีรายงานผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ปี 2563 นักวิจัยจึงยังไม่ชัดเจนว่ากวางจะติดเชื้อไวรัสในปี 2562 ได้อย่างไร
ในเบื้องต้นการศึกษาได้รวบรวมตัวอย่างเพียง 200 กว่าตัวอย่างจาก 5 รัฐ แต่มีการเก็บตัวอย่างเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ปี 2562 ทำให้เกิดคำถามว่าจะมีการตรวจพบกวางที่ติดเชื้อมากขึ้นก่อนการระบาดของโควิด-19 ในมนุษย์หรือไม่
รัฐทั้งหมดที่อยู่ในการศึกษาวิจัย ตั้งอยู่ในตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ไม่ไกลจากรัฐแมรีแลนด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องปฏิบัติการฟอร์ท เดทริกซ์ แต่ยังไม่ทราบว่ากวางที่อยู่ใกล้ห้องแล็บ มีการติดเชื้อหรือไม่ เนื่องจากไม่มีการเก็บตัวอย่างจากภูมิภาคนี้
ขณะที่บทความในนิตยสารเนเจอร์ ที่อ้างถึง“อารินชัย บาเนอร์จี”นักไวรัสวิทยา ที่บอกว่ากวางอาจได้รับเชื้อไวรัสจากการสัมผัสกับผู้คน สัตว์อื่น ๆ หรือแม้แต่น้ำเสียที่ปนเปื้อน และในระหว่างการตรวจสอบห้องแล็บที่ฟอร์ท ดีทริกซ์ในเดือนมิ.ย. ปี 2562 มีการค้นพบการรั่วไหล 2 ครั้ง และพนักงานห้องปฏิบัติการอาจได้รับเชื้อไวรัสในเหตุการณ์ทั้ง 2 ครั้ง