ลุ้นแผนชำระหนี้2งวดไชนา เอเวอร์แกรนด์
"ไชนา เอเวอร์แกรนด์ "มีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้วงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 23 ก.ย. ของหุ้นกู้ที่มีกำหนดครบอายุเดือนมี.ค. ปี 2565 และมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 47.5 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 29 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมี.ค. ปี2567
ธนาคารไอเอ็นจี ของเนเธอร์แลนด์ระบุว่า ทีมปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลจีนจะช่วยเหลือบริษัทเอเวอร์แกรนด์ที่กำลังเผชิญกับปัญหาสภาพคล่อง โดยคาดว่า ทางการจีนจะช่วยให้เอเวอร์แกรนด์ได้รับเงินทุนบางส่วน แต่เอเวอร์แกรนด์อาจต้องขายหุ้นออกไปให้กับบุคคลที่ 3 เช่น รัฐวิสาหกิจของจีน
“ไอริส ปัง” หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็นจี ประจำประเทศจีนระบุว่า “การแยกธุรกิจย่อยของเอเวอร์แกรนด์ออกมา เช่น ธุรกิจที่ไม่ใช่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย อาจจะทำได้ก่อน หลังจากนั้นอาจมีการขายหุ้นที่เป็นแกนหลักของธุรกิจของเอเวอร์แกรนด์ ผมคิดว่าเอเวอร์แกรนด์จะถูกรัฐวิสาหกิจซื้อกิจการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และจะกลายเป็นรัฐวิสาหกิจหนึ่งของจีนในที่สุด”
เอเวอร์แกรนด์ ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าบริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
ขณะที่บริษัทมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนนี้ โดยมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์ ในวันที่ 23 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่มีกำหนดครบอายุเดือนมี.ค. ปี 2565 และมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 47.5 ล้านดอลลาร์ ในวันที่ 29 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมี.ค. ปี 2567
หากเอเวอร์แกรนด์ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยเมื่อถึงวันกำหนดชำระ บริษัทจะมีเวลา 30 วันในการชำระดอกเบี้ย มิฉะนั้นจะถือว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ซึ่งหากเอเวอร์แกรนด์ตกอยู่ในสภาพผิดนัดชำระหนี้ บริษัทจะต้องปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งคาดว่า นักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นกู้ของเอเวอร์แกรนด์จะได้รับส่วนแบ่งการชำระคืนในสัดส่วนต่ำ
ด้านราคาหุ้นของเอเวอร์แกรนด์ ทรุดตัวลงอย่างหนักถึง 7% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกงวานนี้ (21ก.ย.) หลังจากปิดตลาดเมื่อวันจันทร์(20ก.ย.)ราคาดิ่งทำสถิติต่ำสุดในรอบ 10 ปี และราคาหุ้นกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐของเอเวอร์แกรนด์ ที่มีกำหนดครบอายุไถ่ถอนในเดือนมี.ค. ปี 2565 ร่วงลง 0.3 เซนต์ มาอยู่ที่ 24.9 เซนต์สหรัฐ ส่งผลให้ราคาหุ้นกู้ของบริษัทร่วงลงราว 75% แล้วนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.ตามข้อมูลที่บลูมเบิร์กรวบรวมไว้
ทั้งนี้ เอเวอร์แกรนด์เป็นผู้ออกหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนสูงรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย
“ฮุย กา หยวน” ประธานบริษัทไชนา เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดอันดับสองของจีน ได้ส่งจดหมายถึงพนักงานของบริษัทว่า เอเวอร์แกรนด์มีความเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในขณะนี้ไปได้ด้วยดี และคาดว่าการส่งมอบโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ จะดำเนินไปตามสัญญา
ในเนื้อหาของจดหมายระบุด้วยว่า เอเวอร์แกรนด์จะแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อบรรดาผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ นักลงทุน หุ้นส่วน และสถาบันการเงินต่างๆ
มีการประเมินว่า ขณะนี้เอเวอร์แกรนด์มีหนี้สินมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีน หลังจากที่บริษัทได้ทำการกู้เงินมาเป็นเวลาหลายปีเพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน
มุมมองของไอเอ็นจีแตกต่างกับของเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ ที่คาดการณ์ว่าเอเวอร์แกรนด์ มีแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้ และเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะไม่ให้การสนับสนุนโดยตรงแก่เอเวอร์แกรนด์ แม้นักลงทุนมีความวิตกเพิ่มมากขึ้นว่า เอเวอร์แกรนด์อาจจะผิดนัดชำระหนี้การจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนนี้
เอสแอนด์พี ระบุว่า “เราเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะถูกบีบให้ยื่นมือเข้ามา หากการผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์ส่งผลให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อีกหลายรายต้องล้มละลายและสร้างความเสี่ยงเชิงระบบต่อเศรษฐกิจ แต่การล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์เพียงรายเดียวนั้น อาจจะไม่ทำให้รัฐบาลเข้ามาดำเนินการใดๆ”
ราคาหุ้นเอเวอร์แกรนด์ร่วงลงอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของจีนเตือนว่า หนี้สินของเอเวอร์แกรนด์จำนวน 3.05 แสนล้านดอลลาร์ อาจสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในระบบการเงินของจีน หากไม่มีการจัดการกับหนี้สินของเอเวอร์แกรนด์อย่างเหมาะสม
ที่ผ่านมา เอสแอนด์พี ลดอันดับความน่าเชื่อถือของเอเวอร์แกรนด์ลงสู่ระดับ CC จากระดับ CCC โดยให้แนวโน้มการจัดอันดับความน่าเชื่อถือเป็นลบ เนื่องจากสภาพคล่องของเอเวอร์แกรนด์ลดน้อยลง และบริษัทมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับโครงสร้างหนี้