‘บิตคอยน์’บวกกว่า6%เคลื่อนไหวที่ 61,000 ดอลล์
ราคาบิตคอยน์ เทรดที่เว็บไซต์อินเวสต์ติง ดอท คอม เมื่อเวลา 05.42 น. ของวันนี้ (16ต.ค.)ปรับตัวขึ้น 6.28% เคลื่อนไหวที่ 61,350.0 ดอลลาร์
การปรับตัวในช่วงขาขึ้นของราคาบิตคอยน์เป็นการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์(15ต.ค.)ที่ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 61,000 ดอลลาร์ และอยู่เหนือระดับ 2,000,000 บาท ขณะที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (กลต.) จะอนุมัติจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟบิตคอยน์เพื่อทำการซื้อขายในตลาดล่วงหน้า
เมื่อเวลา 00.33 น.ตามเวลาไทยของวันศุกร์ บิตคอยน์ทะยานขึ้น 5.98% สู่ระดับ 61,333.62 ดอลลาร์ หรือราว 2,042,400 บาท ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์มคอยน์เบส
ก่อนหน้านี้ บิตคอยน์ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 64,889 ดอลลาร์ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
“เบน เคสลิน” หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทเอเอเอ็กซ์ คาดการณ์ว่า การจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟบิตคอยน์ในสหรัฐจะมีความคืบหน้ามากขึ้นในไตรมาส 4
เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทอาร์ค อินเวสต์เมนท์ แมเนจเมนท์ (Ark Investment Management)หรือเออาร์เค ซึ่งบริหารงานโดย“เคธี วูด” ได้ยื่นเรื่องต่อกลต.เพื่อขอจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟบิตคอยน์
เออาร์เค ถือเป็นบริษัทแห่งที่ 3 ที่ยื่นเรื่องขออนุมัติจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟบิตคอยน์ หลังจากที่บริษัทฟิเดลิตี้และซีบีโออี โกลบอล มาร์เก็ตส์ได้ยื่นขออนุมัติเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า กองทุนของ"จอร์จ โซรอส" เจ้าของฉายาพ่อมดการเงิน ได้เข้าลงทุนในบิตคอยน์
สถิติที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า สกุลเงินดิจิทัลมักปรับตัวได้ดีในเดือนต.ค. โดยสามารถฟื้นตัวขึ้นหลังจากปรับตัวย่ำแย่ในเดือนก.ย. ซึ่งรูปแบบการปรับตัวของบิตคอยน์ในปีนี้ก็สอดคล้องกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดยบิตคอยน์ดิ่งลงอย่างหนักในเดือนก.ย.ปีนี้ ใกล้หลุดระดับ 40,000 ดอลลาร์ หลังจีนสั่งกวาดล้างการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์
ธนาคารกลางจีนออกแถลงการณ์ระบุว่า การทำธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์ ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และจะถูกกวาดล้างอย่างหนัก นอกจากนี้ แพลตฟอร์มจากต่างประเทศที่ให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลแก่ลูกค้าในจีน ก็ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายเช่นกัน และพนักงานที่ทำงานให้แก่แพลตฟอร์มดังกล่าวจะถูกดำเนินการสอบสวน
ในเดือนก.ค. ธนาคารกลางจีนมีคำสั่งห้ามสถาบันการเงิน รวมทั้งอาลีเพย์ ซึ่งเป็นบริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในเครือของบริษัทแอนท์กรุ๊ปของอาลีบาบา ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต ขณะที่รัฐบาลจีนสั่งกวาดล้างเหมืองขุดบิตคอยน์