จีดีพีจีนไตรมาส 3 เติบโตน่าผิดหวัง ชะลอตัวที่ 4.9%
จีดีพีจีนไตรมาส 3 เติบโตอย่างน่าผิดหวังที่ 4.9% กิจกรรมภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ภาคธุรกิจไม่อยากลงทุนเพิ่ม
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (เอ็นบีเอส) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 4.9% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ผิดจากที่รอยเตอร์เคยสำรวจไว้ว่าจะขยายตัว 5.2% การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 3.1% ต่ำกว่า 4.5% ที่รอยเตอร์คาดการณ์ไว้
นายฟู่ หลิงฮุ่ย โฆษกเอ็นบีเอส แถลงว่า ในไตรมาส 3 ความเสี่ยงและความท้าทายทั้งภายในและต่างประเทศเพิ่มสูง การขาดแคลนพลังงาน “ส่งผลกระทบบางประการ” ต่อการผลิตปกติ แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนนั้นสามารถควบคุมได้
ทั้งนี้ ช่วงปลายเดือน ก.ย. หลายโรงงานต้องหยุดการผลิตเนื่องจากราคาถ่านหินพุ่งสูง และขาดแคลนไฟฟ้าทำให้ทางการท้องถิ่นต้องตัดไฟกะทันหัน นับแต่นั้นรัฐบาลปักกิ่งย้ำว่าจะเพิ่มอุปทานถ่านหิน และสร้างหลักประกันว่ามีไฟฟ้าพร้อมใช้
เอ็นบีเอสรายงานด้วยว่า การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ซบเซากว่าคาด เพิ่มขึ้น 7.3% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 เทียบกับคาดการณ์ที่ 7.9% ภาคธุรกิจไม่อยากลงทุนโครงการในอนาคต
อ่านข่าว : "จีนสีเขียว" หนทางใหม่การพัฒนาจีนอย่างยั่งยืน ภายใต้การนำของ "สี จิ้นผิง"
นายจูเจ้าผิง นักกลยุทธ์ตลาดโลก เจพีมอร์แกน แมเนจเมนท์ กล่าวว่า กิจกรรมการลงทุนย่อตัวลงเป็นผลจากการควบคุมเงื่อนไขปล่อยสินเชื่อ เขาประเมินว่า การลงทุนในสินทรัพย์คงที่เดือน ก.ย.ลดลง 2.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เบื้องต้นเป็นผลจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ร่วงลง 3.5%
จากการประเมินของมูดีส์ ภาคอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องคิดเป็นหนึ่งในสี่ของจีดีพีจีน ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลปักกิ่งเพิ่มความพยายามลดการกู้หนี้ของบริษัทพัฒนาอสังหาฯ อย่างกรณีของเอเวอร์แกรนด์ที่ตกเป็นข่าวใหญ่ในเดือน ส.ค. เมื่อบริษัทแจ้งว่า อาจผิดนัดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ต่างประเทศสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งธนาคารกลางจีนแถลงเมื่อวันศุกร์ (15 ต.ค.) ว่า กรณีของเอเวอร์แกรนด์ไม่เหมือนคนอื่น ขณะที่ปฏิบัติการของบริษัทอสังหาฯ รายอื่นมีเสถียรภาพดี