อดีต ปธ.เอฟดีเอ ตรวจสอบ “ไวรัสเดลตาพลัส” หลังอังกฤษติดสูงสุดรอบ 3 เดือน
นายแพทย์สก็อตต์ ก็อตต์ลีบ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐเรียกร้องให้ดำเนินการวิจัยเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่กลายพันธุ์ หรือที่เรียกว่า เดลตาพลัส เป็นการด่วน หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอังกฤษกลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้ง
นายแพทย์ก็อตต์ลีบ ทวีตข้อความว่า “เราต้องเร่งวิจัยอย่างเร่งด่วนเพื่อหาสาเหตุว่าไวรัสเดลตาพลัส มีการกลายพันธุ์ได้มากขึ้นกว่าเดิม หรือหลบหลีกภูมิคุ้มกันในร่างกายบางส่วนได้หรือไม่ ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าไวรัสชนิดนี้กลายพันธุ์ได้มากกว่าเดิมมาก แต่เราควรดำเนินการให้เร็วขึ้นเพื่อดูลักษณะจำเพาะและการกลายพันธุ์อื่น ๆ เรามีเครื่องมืออยู่แล้ว”
การแสดงความเห็นของนายแพทย์ก็อตต์ลีบเกิดขึ้นหลังจากที่อังกฤษรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค.เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตรายสัปดาห์แตะระดับ 800 รายตลอดช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นยอดที่สูงกว่าประเทศอื่น ๆ ในยุโรปตะวันตกตามรายงานสถิติไวรัสโควิด-19 ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กเป็นผู้รวบรวม นับจนถึงปัจจุบัน อังกฤษมียอดผู้เสียชีวิตเกือบ 140,000 ราย
ทั้งนี้ ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาพลัสมีการกลายพันธุ์ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์ K417N นั้น ได้สร้างความกังวลเนื่องจากมีการกลายพันธุ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นในไวรัสสายพันธุ์เบตา และมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่จะกลับมาติดเชื้อซ้ำสูง
ด้านนักวิจัยของอังกฤษระบุเมื่อช่วงปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าการกลายพันธุ์ดังกล่าวน่ากังวลมากกว่าเดิม ขณะที่เอกสารงานวิจัยของเยอรมนีที่เผยแพร่เมื่อต้นต.ค.นี้ ระบุว่า ทั้งไวรัสเดลตาและเดลตาพลัสทำให้ปอดติดเชื้อรุนแรงกว่าโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม
มีรายงานว่า สหราชอาณาจักรรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 45,140 รายเมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 8,449,165 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันของอังกฤษสูงเกิน 40,000 ราย ติดต่อกันเป็นวันที่ 5 แล้ว