“ยูเอ็น” เตือนโลกอาจร้อนขึ้นอีก 2.7 องศา
“ยูเอ็น” ชี้ปีนี้ควรเป็นจุดเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่โลกยังล้มเหลวตอบสนองจัดการมลพิษ อาจทำให้โลกร้อนขึ้น 2.7 องศาในสิ้นศตวรรษนี้
โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) เผยแพร่รายงานประจำปีว่าด้วยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปี2564 "The Emissions Gap Report 2021: The Heat Is On" เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2564 ตามเวลาสหรัฐ ระบุว่า แม้ในปัจจุบันมีคำมั่นสัญญาที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และควบคุมภาวะโลกร้อน แต่โลกอาจจะร้อนขึ้นเหนือระดับ 2.7 องศาเซลเซียส ก่อนสิ้นศตวรรษนี้
รายงานฉบับนี้ได้เปรียบเทียบการปล่อยมลพิษตามที่เคยคาดการณ์ไว้ กับการจำกัดอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในศตวรรษนี้ ตามที่ได้ตกลงไว้ในความตกลงปารีสที่เป็นไปตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เมื่อปี 2558 ซึ่งมี195 ประเทศให้คำมั่นว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหวังเพียงพอที่จะรักษาภาวะโลกร้อนให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียสภายในปี 2643
รายงานระบุว่า คำมั่นครั้งใหม่ของประเทศต่าง ๆ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่คาดการณ์ไว้ในปี 2573 ได้มากขึ้นเพียง 7.5% เมื่อเทียบกับการให้คำมั่นในครั้งก่อน
หากเป็นเช่นนั้น โลกจะมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 2.7 องศาเซลเซียสในศตวรรษนี้ ลดลงจากเดิมที่โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติคาดการณ์ไว้ที่ 3 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ ประเทศต่าง ๆ จำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มอีก 30% เพื่อจำกัดให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น 2 องศาเซลเซียส และต้องลดการปล่อยก๊าซอีก 55% เพื่อให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส
รายงานดังกล่าว เผยแพร่ก่อนเปิดฉากการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศของยูเอ็น (COP26) เพียงหนึ่งสัปดาห์ โดยได้อ้างอิงว่า การตั้งเป้าไปที่การปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ ในช่วงกลางศตวรรษ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จีน สหรัฐ และประเทศอื่น ๆ เพิ่งจะประกาศ แต่ยังไม่มีแผนที่ชัดเจนว่าจะทำอย่างไร เพื่อสามารถลดภาวะโลกร้อนได้ถึง 2.2 องศาเซลเซียส