ฮ่องกงยึดสินค้าแบรนด์เนมหนีภาษี 154 ล้านดอลลาร์มุ่งหน้าจีน
ศุลกากรฮ่องกงยึดสินค้าหรูหนีภาษีครั้งใหญ่สุดมูลค่า 154 ล้านดอลลาร์ มุ่งหน้าไปขายในจีนแผ่นดินใหญ่ ก่อนเทศกาลตรุษจีนจะมาถึงในอีกสามเดือนข้างหน้า
วานนี้ (29 ต.ค.) กรมศุลกากรฮ่องกงแถลงว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค.เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นเรือต้องสงสัยอ้างว่าขนเมล็ดพลาสติก ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการลักลอบขนสินค้าแบรนด์เนมนานาชนิดตั้งแต่นาฬิกา กระเป๋าถือ เครื่องสำอางแบรนด์เนมไปจนถึงหูฉลาม เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางมูลค่าราว 154ล้านดอลลาร์ (1,200 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง) มากสุดเท่าที่กรมศุลกากรฮ่องกงเคยยึดได้พร้อมจับกุมหญิงวัย 39 ปี และชายวัย 56 ปีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
นายเจิ้ง ไท่เหอ นายตรวจศุลกากรแถลงว่า อีกสามเดือนก็จะถึงวันตรุษจีน ความต้องการสินค้าราคาแพงจำพวกกระเพาะปลาและปลิงทะเลในจีนแผ่นดินใหญ่จึงสูงกว่าปกติ
สำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่า แก๊งอาชญากรรมฝั่งฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ลักลอบขนสินค้าเถื่อนมานานหลายปี แต่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อโควิด-19 ระบาด
ตำรวจเร่งปราบปรามหลังเกิดเหตุตำรวจน้ำหญิงรายหนึ่งถูกฆาตกรรมขณะเรือของเธอไล่ล่าคนร้าย นายตรวจศุลกากรเผยว่า ตั้งแต่นั้นการลักลอบขนสินค้าไปจีนแผ่นดินใหญ่ก็เปลี่ยนมาใช้วิธีอื่น เช่น ขนผ่านเรือค้าขายข้ามแดน
การค้าขายแบบนี้ทำกำไรได้มหาศาล เพราะฮ่องกงไม่เก็บภาษีการขาย สินค้าแบรนด์เนมที่นี่จึงมีราคาถูกที่สุดแห่งหนึ่งของโลกแต่จีนเก็บภาษีหนักทำให้ราคาแพงขึ้นสองเท่ากลายเป็นแรงจูงใจให้ลักลอบขนสินค้าเข้าไปขาย
นายเจิ้งกล่าวว่า สินค้าแพงสุดที่ยึดได้รอบนี้คือนาฬิกาเรือนละ 600,000 ดอลลาร์ฮ่องกง ถ้าไปขายในจีนบวกภาษีราคาจะเพิ่มเป็น 800,000 ดอลลาร์ฮ่องกง
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังยึดการ์ดจอที่ใช้สำหรับขุดเงินคริปโทได้ด้วย