อียูชี้ยังไม่มีหลักฐานชี้หน้ากากอนามัยเสี่ยงก่อมะเร็ง
สหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่า หน้ากากอนามัยสังเคราะห์มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็ง พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาชนยังคงสวมใส่หน้ากากอนามัยต่อไป
หน้ากากอนามัยเป็นเครื่องมือสำคัญที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายว่าสามารถลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และได้กลายมาเป็นของใช้ในชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วโลกในช่วงที่โรคโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด
สถาบัน Sciensano ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสาธารณสุขของเบลเยียเปิดเผยรายงานในเดือนต.ค.ที่ผ่านมาว่า พบสารไททาเนียม ไดออกไซด์ (TiO2) ซึ่งเป็นสารอันตรายในหน้ากากอนามัยสังเคราะห์ที่ถูกนำมาตรวจสอบ ซึ่งรวมถึงหน้ากากอนามัยรุ่นที่ใช้กันโดยทั่วไป
ทั้งนี้ สารไททาเนียม ไดออกไซด์ถูกใช้เป็นสารแต่งสีและสารเคลือบสีขาวในการผลิตหน้ากากอนามัยและผลิตภัณฑ์สิ่งทอ รวมถึงผลิตภัณฑ์กันแดด, สี และผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น ซุป และหมากฝรั่ง
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของอียู กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าไททาเนียม ไดออกไซด์ในหน้ากากอนามัยมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ พร้อมกับแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยต่อไป
“เมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน เรายังไม่สามารถสรุปได้ว่า หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากทางการแพทย์ที่อาจมีส่วนผสมของ TiO2 นั้น อาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ” โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์