ค่าเงินคริปโตพร้อมใจดิ่งหลังจีนประกาศคุมเข้มขุดเหมือง
จีนคุมเข้มเงินคริปโต ประกาศให้รัฐวิสาหกิจจีนที่ทำเหมืองขุดสกุลเงินดิจิทัลยุติการดำเนินการดังกล่าว พร้อมกับเตรียมออกบทลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืน เรื่องนี้ส่งผลให้ค่าเงินกลุ่มนี้ร่วงตามกันเป็นแถว
ค่าเงินบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลเข้ารหัสอื่น ๆ พากันปรับตัวลดลงเมื่อวันอังคาร ( 16พ.ย. ) โดยลดลงจากระดับสูงสุดเกือบเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล
ข้อมูลของคอยน์เดสก์ เว็บไซต์ข่าวที่เชี่ยวชาญเรื่องสกุลเงินดิจิทัลเข้ารหัส สกุลเงินดิจิทัลอันดับต้น ๆ ของโลกอย่างบิตคอยน์ ลดลงเกือบ 8% โดยลงมาที่ระดับ 60,000 ดอลลาร์ในการซื้อขายช่วงเช้า ต่อมามันสามารถกู้คืนการสูญหายเหล่านั้นได้บางส่วนและขยับมาซื้อขายที่ประมาณ 60,643 ดอลลาร์
ส่วนอีเธอร์ลดลงมากกว่า 8% มาอยู่ที่ 4,301 ดอลลาร์ ในขณะที่ โปลกาดอต ร่วงลง 11% ด้านราคาของโดกคอยน์ ลดลงมากกว่า 6% มาอยู่ 0.25 ดอลลาร์ และชิบะ อินุ ร่วงลงกว่า 2% ขณะที่สกุลเงินดิจิทัล ๆ รวมถึงลิตคอยน์ , เอ็กซ์อาร์พี , ยูนิสวอป , สเตลลาร์ , คาร์ดาโน และ โซลาน่า ต่างก็ซื้อขายกันในเขตสีแดงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลเข้ารหัสทั่วโลกลดลงประมาณ 7% โดยลงมาสู่ระดับ 2.66 ล้านล้านดอลลาร์ การลดลงเกิดขึ้นเมื่อจีนออกมาเตือนว่าจะดำเนินการคุมเข้มการทำเหมืองสกุลเงินเสมือนจริงในประเทศต่อไป
คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน(เอ็นดีอาร์ซี) เผยว่า รัฐวิสาหกิจ ควรออกจากการขุดเหมืองสกุลเงินดิจิทัล ในขณะที่พวกเขาจากกำลังพิจารณากำหนดมาตรการลงโทษในรูปแบบของราคาพลังงานที่สูงขึ้นสำหรับบริษัทที่ยังคงต่อต้านคำสั่งห้ามของรัฐบาล
"เหม็ง เว่ย" โฆษกของเอ็นดีอาร์ซี บอกเมื่อวันอาทิตย์ว่าการขุดเหมือง “ทำให้เกิดการใช้พลังงานและการปล่อยคาร์บอนเป็นจำนวนมาก มันไม่มีผลเชิงรุกที่จะนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมหรือความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ การควบคุมกิจกรรมการขุดสกุลเงินดิจิทัล มีความหมายสำคัญต่อการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมของเราให้เหมาะสม ประหยัดพลังงานและลดการปล่อยมลพิษ บรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอน ”
เอ็นดีอาร์ซี ยังจัดการประชุมพิเศษในประเด็นนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และกำลังเพิ่มแรงกดดันให้จังหวัดและเทศบาลในการสอบสวนและจัดการกับรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องกับการทำเหมืองสกุลเงินดิจิทัล