UK ชี้ ฉีดวัคซีน "ไฟเซอร์ - แอสตร้าเซนเนก้า" ผสมโมเดอร์นา กระตุ้นภูมิดีขึ้น
หลายประเทศเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบผสมยี่ห้อ ท่ามกลางข้อสงสัยที่ยังขาดความชัดเจนเรื่องประสิทธิภาพวัคซีนและความปลอดภัย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อยังเพิ่มสูงขึ้น อุปทานวัคซีนต่ำ และการสร้างภูมิระดับโลกล่าช้า
สหราชอาณาจักร เผยผลการศึกษาฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบผสม เมื่อวันจันทร์ (6 ธ.ค.) พบว่า มีการตอบสนองภูมิคุ้มกันดีขึ้นเมื่อได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า หรือไฟเซอร์-ไบออนเทค เป็นเข็มแรก และหลังจากนั้น 9 สัปดาห์ตามด้วยโมเดอร์นา
ศาสตราจารย์แมทธิว สเนป มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ผู้อยู่เบื้องหลังการทดลองในชื่อ Com-COV2 กล่าวกับรอยเตอร์ พบว่า มีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันดีขึ้นจริงๆ และอันที่จริงสูงกว่าการได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า - ออกซ์ฟอร์ดสองโดส
ผลการศึกษานี้เป็นผลดีต่อประเทศรายได้ปานกลางและยากจน ที่อาจต้องใช้วัคซีนต่างยี่ห้อเป็นเข็มหนึ่งและเข็มสองฉีดให้กับประชาชน
"เรากำลังทำให้เห็นว่า คุณไม่ต้องยึดติดกับวัคซีนสองโดสที่เหมือนกัน และการกระตุ้นภูมิจะดียิ่งขึ้นหากใช้วัคซีนสองโดสที่ต่างกันก็ไม่เป็นไร" ศาสตราจารย์สเนปกล่าว
ในผลการศึกษานี้ยังระบุว่า หากฉีดแอสตร้าเซนเนก้าตามด้วยโมเดอร์นา หรือโนวาแวกซ์ จะเกิดแอนติบอดี และสร้าง T-cell ในระดับที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับแอสตร้าเซนเนก้าสองโดส
การวิจัยดังกล่าวได้ทำการศึกษากับอาสาสมัคร 1,070 คน พบว่า ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ แล้วตามด้วยโมเดอร์นา ก็ดีกว่าการฉีดไฟเซอร์ทั้งสองโดส ขณะที่การฉีดไฟเซอร์ ตามด้วยโนวาแวกซ์ทำให้แอนติบอดีที่สูงกว่าตาราแอสตร้าเซนเนก้าสองโดส แต่การตอบสนองของแอนติบอดีและ T-cell จะต่ำกว่าการได้รับไฟเซอร์สองโดส
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาดังกล่าวได้ถูกตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์แลนเซ็ต โดยไม่มีข้อกังวลด้านความปลอดภัย