“โอมิครอน” ระบาดลุกลามทั่วโลก 50 ประเทศ
CDC ของสหรัฐ เผย ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แพร่ระบาดไปแล้วกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และ 19 รัฐในสหรัฐ เร่งออกคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนครั้งใหม่
ดร.โรเชล วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนทำให้เกิดข้อจำกัดด้านการเดินทางทั่วโลก พร้อมคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนครั้งใหม่นับตั้งแต่ตรวจพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวในแอฟริกาตอนใต้ เมื่อเดือนที่แล้ว และปัจจุบันมีการพบสายพันธุ์ดังกล่าวใน 50 ประเทศและใน 19 รัฐของสหรัฐ
ดร.วาเลนสกีกล่าวว่า ขณะที่เรายังคงทำงานเพื่อให้เข้าใจถึงความร้ายแรงของสายพันธุ์โอมิครอน รวมถึงดูว่ามันตอบสนองต่อการรักษาและวัคซีนอย่างไร เราคาดว่าอย่างน้อยมาตรการแบบเดิมก็จะสามารถปกป้องเราจากสายพันธุ์โอมิครอนได้บ้าง
นายเจฟฟ์ เซียนท์ส ผู้ประสานงานด้านการรับมือกับไวรัสโควิด-19 ประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่า มีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นประมาณ 12.5 ล้านโดสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมี 7 ล้านโดสเป็นวัคซีนเข็มบูสเตอร์
"สิ่งนี้เป็นจำนวนการฉีดวัคซีนรวมรายสัปดาห์ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. ดังนั้นตอนนี้เรากำลังฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในจำนวนที่มากอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ" นายเซียนท์สกล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวได้เปิดเผยว่า นักวิทยาศาสตร์ควรมีข้อมูลบางส่วนภายในกลางสัปดาห์หน้าที่แสดงให้เห็นว่าวัคซีนในปัจจุบันสามารถรับมือกับโควิดสายพันธุ์ใหม่ได้ดีเพียงใด
นายเฟาชีกล่าวว่า เราจะสามารถระบุได้ว่าแอนติบอดีที่ได้จากวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพกับไวรัสโอมิครอนหรือไม่ นอกจากนี้ เรากำลังทำการศึกษาในสัตว์เพื่อประเมินภูมิคุ้มกัน รวมถึงประสิทธิภาพของยาต้านไวรัส