หุ้นยุโรปปิดลบเหตุวิตกขึ้นดอกเบี้ย-ผลกระทบโอมิครอน
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันศุกร์ (17 ธ.ค.) และปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้ นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มสินค้าหรูหรา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางรายใหญ่ต่าง ๆ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 473.90 จุด ลดลง 2.66 จุด หรือ -0.56%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,926.63 จุด ลดลง 78.44 จุด หรือ -1.12%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,531.69 จุด ลดลง 104.71 จุด หรือ -0.67% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,269.92 จุด เพิ่มขึ้น 9.31 จุด หรือ +0.13%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง 0.3% ในรอบสัปดาห์นี้ และร่วงลงมากกว่า 3% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เข้าทดสอบในเดือนพ.ย. เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายของธนาคารกลางรายใหญ่
โดยธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดี หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเมื่อวันพุธที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565
ส่วนธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) สัญญาที่จะยังคงสนับสนุนเศรษฐกิจต่อไป
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนปรับตัวลง
ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจได้ตอกย้ำแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ โดยเงินเฟ้อของยูโรโซนพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ย.
ขณะที่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนี ร่วงลงเป็นเดือนที่ 6 เนื่องจากเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากปัญหาคอขวดด้านอุปทานและมาตรการจำกัดต่าง ๆ เพื่อควบคุมโรคโควิด-19
ประเทศในยุโรปเตรียมที่จะกำหนดข้อจำกัดด้านการเดินทางเพิ่มขึ้น แต่หุ้นกลุ่มเดินทางพุ่งขึ้น 2.3% นำโดยหุ้นสายการบิน เนื่องจากเอชเอสบีซีคาดว่า ธุรกิจสายการบินของยุโรปจะฟื้นตัว
หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลง 2.7% หลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า การจดทะเบียนรถยนต์ ลดลง 17.5% ในเดือนพ.ย.เนื่องจากภาวะขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก และภาวะชะงักงันด้านอุปทาน