ล็อกดาวน์ซีอานกระเทือนอุตฯทั้งระบบ

การพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นในจีนทำให้ภาคธุรกิจทั่วประเทศต้องเจอกับผลกระทบในรูปแบบต่างๆที่มาจากการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์และการคุมเข้มด้านการเดินทาง ส่งผลโดยตรงต่อกระบวนการผลิต โรงงานบางแห่งต้องยุติสายการผลิตชั่วคราว ทำให้การขนส่งสินค้าพลอยล่าช้าไปด้วยและท้ายที่สุดเป็นอุปสรรคขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

รายงานจากนิกเคอิ เอเชีย ระบุว่า การล็อกดาวน์เป็นความท้าทายด้านโลจิสติกสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและผู้ผลิตชิพในเมืองซีอาน ขณะที่โรงงานแปรรูปอาหารทะเลกว่า 100 แห่งในต้าเหลียนทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศต้องปิดตัวลง

จีนใช้นโยบายกำจัดโรคโควิด-19 ให้เหลือศูนย์หรือไม่ให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศเลยก่อนหน้าที่จะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในเดือนก.พ.ปีหน้า แต่มาตรการขั้นเด็ดขาดเหล่านี้อาจจะมาพร้อมกับต้นทุนทางเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาล
 

เมื่อวันพฤหัสบดี(23ธ.ค.)นครซีอาน เมืองเอกของมณฑลส่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ประกาศล็อกดาวน์ทั่วเมืองเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 รอบล่าสุด

หลังจากสำนักงานใหญ่ด้านการป้องกันและควบคุมโรคระบาดของซีอาน ระบุว่า ตรวจพบผู้มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกจำนวน 127 ราย จากการทดสอบกรดนิวคลีอิกทั่วเมืองรอบที่ 2 โดยผู้มีผลตรวจเป็นบวกทุกรายถูกส่งตัวไปวินิจฉัยและรักษาที่สถาบันการแพทย์ที่กำหนดแล้ว

ซีอานสั่งปิดล้อมชุมชน หมู่บ้าน และหน่วยการทำงานทุกแห่ง พร้อมทั้งขอให้ประชาชนไม่เดินทางออกจากเมือง ยกเว้นมีเหตุจำเป็นจริงๆ  พร้อมกันนั้นได้สั่งระงับเส้นทางขนส่งผู้โดยสารทางไกล

ยกเว้นยานพาหนะขนส่งสินค้าที่บรรทุกอุปกรณ์ป้องกันโรคระบาดและของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ทั้งยังห้ามไม่ให้แท็กซี่และยานพาหนะที่เรียกผ่านออนไลน์เข้าสู่พื้นที่เสี่ยงปานกลางและสูง หรือเดินทางออกนอกเมือง
 

“ข้อกำหนดที่เข้มงวดของทางการ ทำให้เราไม่สามารถนำรถบรรทุกออกวิ่งได้  เราไม่สามารถขนย้ายผลิตภัณฑ์ด้านอุตสาหกรรมใดๆได้เลย ซึ่งรวมถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ”พนักงานคนหนึ่งที่ทำงานในบริษัทให้บริการด้านขนส่งแห่งหนึ่ง กล่าว

ด้านค่ายรถบีวายดี ก็บอกว่ามาตรการคุมเข้มของทางการจีนส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตรถไฟฟ้าบีวายดีในซีอานด้วยเช่นกัน 

บีวายดี หนึ่งในกลุ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน กล่าวว่า โรงงานผลิตรถในเมืองซีอานมีกำลังการผลิตปีละประมาณ 600,000 คันและโรงงานแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางการผลิตรถไฮบริดปลั๊ก-อินด้วย เมื่อเกิดปัญหาการส่งมอบล่าช้าหรือปัญหาอื่นๆจะสงผลกระทบต่อยอดขายของบีวายดีทันที

ด้านโฆษกบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ระบุว่าการระบาดของโรคโควิด-19ระลอกล่าสุด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อโรงงานผลิตชิพในเมืองซีอาน ทำให้บริษัทใช้นโยบายให้พนักงานอยู่เฉพาะในหอพักพนักงานเพื่อลดอัตราการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

โดยคาดกันว่า ศูนย์กลางการผลิตในเมืองซีอานของซัมซุงมีกำลังการผลิตประมาณ 40% ของผลผลิตชิพความจำแบบแฟลช NAND ทั่วโลก 

ส่วนชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของจีน เมืองต้าเหลียนปิดโรงงานแปรรูปอาหารทะเลกว่า 100 แห่งในช่วงต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่มีการค้นพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมาก 

"เรายังไม่สามารถคาดการณได้ว่าจะมาเปิดดำเนินการอีกครั้งได้เมื่อใด"ผู้บริหารรายหนึ่ง กล่าว

ตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเมืองต้าเหลียน แต่ทางการต้าเหลียนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและยังคงมีความระมัดระวังในการอนุญาตให้โรงงานกลับมาเดินสายการผลิตอีกครั้ง

“การแพร่ระบาดของโรคโควิดสายพันธุ์โอมิครอนอาจจะทำให้ทางการตัดสินใจชะลอการเปิดโรงงานอาหารทะเลออกไปก่อน ”ผู้บริหารคนหนึ่งในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเล กล่าว

ทางการตงกวน เปิดเผยว่า เมืองทางใต้อย่างตงกวน มณฑลกวางตุ้งพบการระบาดในชุมชน 26 เคสระหว่างวันที่ 13 ธ.ค.และวันอาทิตย์(19 ธ.ค.)โดยทั้งหมดอยู่ในเขตตาลัง ซึ่งการระบาดครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อโรงงานสิ่งทอและโรงงานอื่นๆในเมืองดังกล่าว

ด้านเทียนจิน ซึ่งอยู่ใกล้กับกรุงปักกิ่ง กำหนดให้ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคนเข้ารับการกักตัวในโรงแรมเป็นเวลานานสามสัปดาห์จากเดิมสองสัปดาห์ เริ่มตั้แต่วันที่ 15 ธ.ค.

เมืองเทียนจินยังเป็นที่พบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนรายแรกเมื่อวันที่9ธ.ค.ส่งผลให้มีการตรวจสอบบรรดานักเดินทางและเรือขนส่งสินค้าตามสนามบินและท่าเรืออย่างใกล้ชิดมากขึ้น

สำนักงานบริหารการบินพลเรือน (ซีเอเอซี) ในกรุงปักกิ่ง ประกาศระงับให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ของไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส จากนครนิวยอร์กมายังนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งให้บริการสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

และเที่ยวบินของสายการบินเซียะเหมิน แอร์ไลน์ส จากนครลอสแองเจลิสสู่เมืองเซียะเหมิน ซึ่งให้บริการสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. นี้ หลังตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 บนเที่ยวบินจากทั้งสองเส้นทาง รวมกัน 10 คน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.