ซีอีโอไฟเซอร์ยัน วัคซีนสองเข็มไม่พอต้านโอมิครอน

ซีอีโอไฟเซอร์ยัน วัคซีนสองเข็มไม่พอต้านโอมิครอน

ซีอีโอไฟเซอร์เผย วัคซีนสองโดสอาจป้องกันโอมิครอนได้ไม่แรงพอ ประสิทธิภาพในการป้องกันการเข้าโรงพยาบาลลดลงด้วย

นายอัลเบิร์ต เบอร์ลา ซีอีโอไฟเซอร์ให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ซีเอ็นบีซี ในงานประชุมสุขภาพของเจพีมอร์แกน เมื่อวันจันทร์ (10 ม.ค.) ตามเวลาสหรัฐ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนเข็มสามเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของประชาชนต่อสายพันธุ์โอมิครอน

“วัคซีนสองโดสไม่เพียงพอสำหรับโอมิครอน โดสที่ 3 ป้องกันการเสียชีวิตได้ดี และป้องกันการเข้าโรงพยาบาลได้เหมาะสม” ซีอีโอไฟเซอร์กล่าวและว่า สายพันธุ์โอมิครอนเป็นเป้าหมายที่รับมือได้ยากกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า เพราะมีการกลายพันธุ์หลายสิบจุด สามารถหลบภูมิคุ้มกันจากวัคซีนไฟเซอร์สองโดสได้

หากพิจารณาข้อมูลในโลกจริงรวบรวมโดยสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพ สหราชอาณาจักร พบว่า วัคซีนสองโดสมีประสิทธิผลป้องกันการเข้าโรงพยาบาลได้ 52% หลังฉีดเข็มสอง 25 สัปดาห์ วัคซีนไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาป้องกันการติดเชื้อโอมิครอนได้เพียงราว 10% หลังฉีดเข็มสอง 20 สัปดาห์

ในทางกลับกัน วัคซีนเข็มกระตุ้นมีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการได้ถึง 75% ป้องกันการเข้าโรงพยาบาลได้ 88%

อย่างไรก็ตาม นายเบอร์ลากล่าวว่า ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นจะป้องกันโควิดได้นานแค่ไหน สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพของยูเคเองก็พบว่า เข็มกระตุ้นป้องกันการติดเชื้อได้เพียง 40%-50% เป็นเวลา 10 สัปดาห์หลังฉีด

ขณะนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) แนะนำให้คนที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องฉีดวัคซีนเข็มสี่ โดยสามเข็มแรกเป็นตัวหลัก อีกหนึ่งเข็มเป็นเข็มกระตุ้น อิสราเอลฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 4 ให้กับประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยพบว่าเข็มที่ 4 เพิ่มภูมิคุ้มกันได้ 5 เท่า

ก่อนหน้านั้นในวันจันทร์ นายเบอร์ลากล่าวกับซีเอ็นบีซีว่า วัคซีนไฟเซอร์ใช้สำหรับโอมิครอนโดยเฉพาะจะพร้อมในเดือน มี.ค. แม้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจำเป็นต้องใช้หรือไม่ ทั้งยังจำเป็นต้องทดสอบเพิ่มเติมเพื่อตัดสินว่า จำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 หรือไม่