CDC ชี้ ฉีดบูสเตอร์ป้องกันป่วยหนัก “โอมิครอน” ได้
งานวิจัยชุดใหม่ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า วัคซีนเข็มบูสเตอร์สามารถลดความเสี่ยงที่จะต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้
ในผลการวิจัยของ CDC ทั้งสามรายการเป็นผลวิจัยชุดแรกๆ ที่ศึกษาถึงประสิทธิภาพของวัคซีนในการต้านเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในสหรัฐ และได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์เพื่อยับยั้งอาการเจ็บป่วยขั้นรุนแรงจากไวรัสโอมิครอนที่กำลังระบาดอย่างหนักในสหรัฐ โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 99% เป็นสายพันธุ์นี้
การวิจัยชุดใหม่ยังระบุว่า วัคซีนเข็มบูสเตอร์สามารถยับยั้งโอกาสเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อจะต้องรับบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน หรือโอกาสที่จะต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากโควิด-19 ได้
นอกจากนี้ ผลการวิจัยฉบับหนึ่งยังได้เก็บข้อมูลในโรงพยาบาล 259 แห่ง และแผนกฉุกเฉิน 383 แห่งเมื่อช่วงปลายเดือนส.ค.2564 จนถึงต้นเดือนม.ค.2565 ซึ่งพบว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นของไฟเซอร์-ไบออนเทค หรือโมเดอร์นานั้น สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หรือห้องฉุกเฉินได้ถึง 94% ในช่วงการระบาดของไวรัสเดลตา และ 82% ในช่วงที่ไวรัสโอมิครอนเริ่มระบาด
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวเป็นการศึกษากลุ่มวัยผู้ใหญ่ที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา ซึ่งคณะผู้วิจัยสามารถวิเคราะห์ผลการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ในช่วงการระบาดของไวรัสทั้งสองสายพันธุ์ได้
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์