“ยุโรป” เสี่ยงขาดแคลนก๊าซธรรมชาตินำเข้า “รัสเซีย” ท่ามกลางวิกฤติยูเครน
สหรัฐกับชาติพันธมิตรเร่งทำแผนฉุกเฉิน กรณีขาดแคลนก๊าซธรรมชาตินำเข้าจากรัสเซียที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจน้อยใหญ่ และเป็นเชื้อเพลิงทำความร้อนให้กับบ้านเรือนในยุโรปช่วงฤดูหนาวนี้ ท่ามกลางความตึงเครียดที่มีต่อรัสเซีย ในวิกฤตการณ์ยูเครน
ยานิส ครูจ ผู้เชี่ยวชาญด้านยุโรปตะวันออก ของสถาบันระหว่างประเทศและด้านความมั่นคงแห่งเยอรมนีให้ความเห็นว่า ยุโรปจะต้องดิ้นรนเอาตัวรอดเป็นระยะเวลาอันยาวนาน โดยปราศจากก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย และการแสวงหาแหล่งพลังงานอื่น ซึ่งถือเป็นความท้าทายด้านโลจิสติกส์ครั้งใหญ่ ตอกย้ำความวิตกในการเข้าถึงพลังงานของทวีปนี้ ที่ลำบากแสนเข็ญอยู่แล้วในช่วงฤดูหนาว และทางเลือกอื่นที่ง่ายและรวดเร็วไม่มีอยู่จริง
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวคนหนึ่งเปิดเผยว่า กำลังเจรจากับหลายประเทศและหลายบริษัทเกี่ยวกับการระบุแหล่งก๊าซธรรมชาติทางเลือก ที่อาจกำหนดเส้นทางใหม่ให้ไปยังยุโรป แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการแทรกแซงตลาดพลังงานเป็นเรื่องยาก ส่วนท่อส่งใหม่ และโรงงานผลิตก๊าซเหลวก็ต้องใช้เวลาหลายปีในการสร้าง การเปลี่ยนเส้นทางเชื้อเพลิงก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ส่งออกก๊าซรายใหญ่อย่างกาตาร์ ที่ดูแล้วโอกาสริบหรี่มาก
นิคอส ทีซาฟอส ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานประจำศูนย์การศึกษายุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ ให้ความเห็นการหยุดชะงักของอุปทานเล็กน้อย จะส่งผลกระทบต่อระบบแต่ไม่ทำลายระบบ แต่สถานการณ์ร้ายแรงกรณีก๊าซจากรัสเซียหายไปอย่างสมบูรณ์จะเป็นเหมือนหนังคนละม้วน เช่น การตัดการส่งก๊าซจากยูเครนถือเป็นเรื่องเจ็บปวดที่สามารถจัดการได้
แต่ถ้าตัดการส่งทั้งหมดจากรัสเซียจะเป็นหายนะ ไม่มีทางที่ยุโรปจะหาพลังงานจากแหล่งอื่นมาทดแทนได้ ตัวเลขจากยูโรสตัท (Eurostat) ชี้ว่าเมื่อปี 2563 ยุโรปพึ่งพาก๊าซธรรมชาตินำเข้าจากยุโรป 38% หรือจำนวน 153,000 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะเยอรมนี ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของทวีป ที่แม้จะผลิตพลังงานได้เองจากถ่านหิน และนิวเคลียร์ ก็ยังต้องพึ่งก๊าซจากรัสเซียเป็นหลัก เช่นเดียวกับอิตาลี และออสเตรียที่ต้องพึ่งพาก๊าซที่ทอดผ่านยูเครนเช่นกัน
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์