‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ รวยสวนกระแสตั้งแต่ต้นปี
ดัชนีอภิมหาเศรษฐีบลูมเบิร์กชี้ ช่วงไม่กี่สัปดาห์ของปี 2565 บรรดามหาเศรษฐีโลกต่างมั่งคั่งสุทธิลดลง ยกเว้นวอร์เรน บัฟเฟตต์
เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงานอ้างข้อมูลดัชนีอภิมหาเศรษฐีบลูมเบิร์ก (Bloomberg Billionaires Index) ว่า การที่หุ้นเทคโนโลยีดิ่งหนักเมื่อไม่นานมานี้ ส่งผลให้ความมั่งคั่งของบรรดาบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลกลดกันถ้วนหน้า อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวานอาทิตย์(30 ม.ค.) ความมั่งคั่งหายไป 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งอเมซอนรวยลดลง 2.78 หมื่นล้านดอลลาร์ ลาร์รี เพจและเซอร์เกย์ บริน ผู้ก่อตั้งกูเกิล ต่างฝ่ายต่างรวยลดลงกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก เจ้าพ่อเฟซบุ๊ก ลดลง 1.52 หมื่นล้านดอลลาร์
ในบรรดา 10 คนที่ร่ำรวยมากที่สุดในโลก มีเพียงวอร์เรน บัฟเฟตต์คนเดียวที่ความมั่งคั่งสุทธิเพิ่มขึ้นราว 2.4 พันล้าน ตัวเลขรวมอยู่ที่ 1.11 แสนล้านดอลลาร์ สัปดาห์นี้ประธานและซีอีโอเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ แซงซัคเคอร์เบิร์กกลับไปอยู่อันดับหกในดัชนีอภิมหาเศรษฐีโลกของบลูมเบิร์กแล้ว ซึ่งต้องใช้เวลาสี่ปีโดยซัคเคอร์เบิร์กได้รับการจัดอันดับให้รวยกว่าบัฟเฟตต์ในปี 2561
แดน อีฟส์ นักวิเคราะห์จากเวดบุชซีเคียวริตีส์กล่าวกับซีเอ็นบีซี “ทศวรรษแล้วทศวรรษเล่า ที่บัฟเฟตต์จับอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมด เป็นเหตุผลให้ชื่อของเขาถูกบันทึกไว้ในตำราประวัติศาสตร์เป็นร้อยๆ ปี เป็นเพราะบริษัทของเขาเชื่อในการลงทุนแบบเน้นคุณค่า”
เหล่านักลงทุนเน้นคุณค่าเลือกหุ้นมูลค่าต่ำกว่าพื้นฐาน แล้วซื้อขายในราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และที่ไม่เหมือนกับซีอีโอคนอื่นๆ ที่ความมั่งคั่งสุทธิส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับบริษัทเทคโนโลยีของตน แต่เบิร์กเชียร์ฮาธาเวย์ของบัฟเฟตต์มีพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายมาก เปิดโอกาสให้เขารอดตัวช่วงที่หุ้นเทคโนโลยีถูกเทขาย
ทั้งนี้ บัฟเฟตต์แนะนำมานานแล้วว่า นักลงทุนควรซื้อกองทุนรวมดัชนีที่ถือหุ้นทุกตัว เป็นการสร้างความหลากหลายไปโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น เอสแอนด์พี 500 รวมทั้งบริษัทใหญ่อย่างแอ๊ปเปิ้ล โคคาโคล่าและกูเกิล
ปี 2560 บัฟเฟตต์กล่าวกับซีเอ็นบีซีว่า สำหรับคนที่กำลังหาทางออมเงินเพื่อเกษียณ กองทุนรวมดัชนีสมเหตุสมผลที่สุดตลอดกาล
ส่วนมัสก์แม้หุ้นเทคโนโลยีถูกเทขาย แต่ความมั่งคั่งระดับ 2.16 แสนล้านดอลลาร์ยังทำให้เขาร่ำรวยที่สุดในโลก มากกว่าบัฟเฟตต์เกือบสองเท่า และบัฟเฟฟต์อาจติดอันดับท็อปเท็นไม่นาน ปีก่อนนักลงทุนรายนี้เผยว่า เขานำเงินครึ่งหนึ่งไปทำงานการกุศลและยังไม่มีแผนยุติในเร็ววัน