สหรัฐขึ้นบัญชีดำ Tencent-CATL บริษัทตะวันตกไม่กล้าทำธุรกิจด้วย

สหรัฐขึ้นบัญชีดำ Tencent-CATL บริษัทตะวันตกไม่กล้าทำธุรกิจด้วย

การเพิ่มชื่อ ‘Tencent’ และ ‘CATL’ เข้าในบัญชีดำของสหรัฐ ส่อสั่นสะเทือนวงการเทคโนโลยีและยานยนต์ไฟฟ้าโลกอย่างหนัก เนื่องจาก CATL เป็นซัพพลายเออร์รายสำคัญให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่หลายราย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐได้เพิ่มชื่อ “Tencent Holdings Ltd.” บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน และ “Contemporary Amperex Technology Co. Ltd.” (CATL) ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกเข้าในบัญชีดำ เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับกองทัพจีน ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ “น่าประหลาดใจ” เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี

สำหรับ CATL ถือเป็นซัพพลายเออร์รายสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla  โดยทั้งสองบริษัทได้ประท้วงเรื่องนี้ว่าเป็นความผิดพลาด พร้อมระบุว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับทางการทหารใด ๆ หุ้นของ Tencent ร่วงลงมากกว่า 7% ในตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งเป็นการลดลงภายในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ส่วนหุ้นของ CATL ร่วงลงมากกว่า 5% ซึ่งถือเป็นการร่วงลงที่มากที่สุดในรอบประมาณ 3 เดือนเช่นกัน

การเพิ่มสองบริษัทยักษ์ของจีนเข้าไปในบัญชีดำเช่นนี้ ได้เพิ่มความตึงเครียดระหว่างสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกให้รุนแรงขึ้น แม้ว่าบัญชีดำของกระทรวงกลาโหมสหรัฐไม่มีบทลงโทษโดยเฉพาะ แต่ก็ทำให้เหล่าบริษัทสหรัฐไม่กล้าทำธุรกิจร่วมกับบริษัทในบัญชีดำ 
CATL นั้นจัดหาแบตเตอรี่ให้ไม่เพียงแต่ Tesla เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกหลายราย ตั้งแต่ Stellantis NV ไปจนถึง Volkswagen AG การรวม CATL เข้าไปในบัญชีดำนี้ได้เป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศน์รถอีวี 

ขณะที่ Tencent บริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดของจีน มีการลงทุนขนาดใหญ่หรือมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ตั้งแต่สตูดิโอ Fortnite อย่าง Epic Games ไปจนถึง Activision Blizzard อีกทั้งได้สร้างแอปพลิเคชันที่เรียกว่า “แอปทุกอย่าง” อย่าง WeChat ซึ่งรัฐบาลสหรัฐพยายามแบน WeChat โดยอ้างว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ

CATL ชี้แจงว่า การระบุชื่อของบริษัทในบัญชีดำนั้นเป็น “ความผิดพลาด” บริษัทย้ำว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทหาร โดยบริษัทก่อตั้งโดยภาคเอกชน และได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2561

โฆษกของ Tencent กล่าวว่า “เราไม่ใช่บริษัทหรือซัพพลายเออร์ทางทหาร การระบุชื่อในบัญชีรายชื่อนี้ไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจของเรา แตกต่างจากมาตรการคว่ำบาตรหรือการควบคุมการส่งออก อย่างไรก็ตาม เราจะทำงานร่วมกับกระทรวงกลาโหมสหรัฐเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดใด ๆ”

ที่ผ่านมา มีบางบริษัทจีนที่ต่อสู้เพื่อถอดชื่อออกจากบัญชีดำของสหรัฐได้สำเร็จ เช่น ในปี 2564 Xiaomi บริษัทสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของจีนสามารถบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐ ที่ทำให้การกำหนดให้เป็นบริษัททหารจีนเป็นโมฆะ และในปีที่ผ่านมา Advanced Micro-Fabrication Equipment บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของจีน ได้ถูกลบออกจากบัญชีดำ ซึ่งบริษัทได้อธิบายว่าเป็นการแปะป้ายที่ไร้เหตุผล

ก่อนที่ Tencent ถูกลิสต์เข้าบัญชีดำของสหรัฐนี้ บริษัทเคยผ่านมรสุมหลายอย่างจากการถูกกวดขันอย่างเข้มงวดจากรัฐบาลจีน ตามมาด้วยภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ซบเซา อย่างไรก็ตาม Tencent กลับสามารถผ่านพ้นวิกฤติมาได้ดีกว่าคู่แข่งรายอื่น ซึ่งเป็นผลมาจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เกมและการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน โดยหุ้นของ Tencent ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงนั้น มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 42% ในปีที่ผ่านมา

อ้างอิง: bloomberg