กางแผนฝึกคอบร้าโกลด์ 2022 ภายใต้มาตรการโควิดเข้ม
นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ร่วมกับพลเอก ณตฐพล บุญงาม เสนาธิการทหาร เป็นประธานแถลงการฝึกคอบร้าโกลด์ 2022 ครั้งที่ 41 ตอกย้ำความมั่นคงและเข้มแข็งในภูมิภาค ภายใต้มาตรการควบคุมโควิด-19 เข้มข้น
การฝึกคอบร้าโกลด์เป็นการฝึกร่วมผสมทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกองทัพไทย และกองกำลังสหรัฐ ภาคพื้นอินโดแปซิฟิก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกในประเทศไทยเป็นประจำทุกปี การฝึกคอบร้าโกลด์ 2022
ในปีนี้ เป็นครั้งที่ 41 โดยมีประเทศเข้าร่วมการฝึกหลักจำนวน 7 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย สหรัฐ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และมาเลเซีย
ส่วนประเทศที่เข้าร่วมการฝึกเพิ่มเติมในโครงการช่วยเหลือประชาชน จำนวน 3 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย และออสเตรเลีย และประเทศในโครงการเสนาธิการผสมส่วนเพิ่มนานาชาติ หรือ MPAT (Multinational Planning Augmentation Team) จำนวน 10 ประเทศ ประกอบด้วย บังกลาเทศ แคนาดา ฝรั่งเศส อังกฤษ มองโกเลีย เนปาล นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ ฟิจิ และเวียดนาม รวมทั้งสิ้น 20 ประเทศ
ยอดผู้เข้าร่วมการฝึกฯ จำนวน 3,460 นาย ประกอบด้วย
- ไทย 1,953 นาย
- สหรัฐ 1,296 นาย
- สิงคโปร์ 50 นาย
- อินโดนีเซีย 16 นาย
- ญี่ปุ่น 35 นาย
- เกาหลีใต้ 41 นาย
- มาเลเซีย 36 นาย
- จีน 10 นาย
- อินเดีย 5 นาย
- ออสเตรเลีย 18 นาย
การฝึกฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ทางทหารที่ดีระหว่างมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึกฯ และเป็นการพัฒนาขีดความสามารถในการอำนวยการยุทธ์ร่วมและผสม โดยการประยุกต์ใช้กำลังรบในสถานการณ์วิกฤติต่าง ๆ อีกทั้งเพื่อฝึกการใช้ระเบียบปฏิบัติประจำกองกำลังผสมนานาชาติ
รูปแบบการฝึกฯ ในปีนี้ ประกอบด้วยการฝึกหลัก ดังนี้
1. การฝึกปัญหาที่บังคับการ (Command Post Exercise : CPX) ระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ถึง 5 มีนาคม 2565 โดยกองบัญชาการกองทัพไทย จัดตั้ง กองบัญชาการกองกำลังผสมนานาชาติ (Multi National Forces Headquarters : MNF HQs.) ร่วมกับกองทัพสหรัฐ และมิตรประเทศ ณ อาคารม้าแดง กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง
2. โครงการช่วยเหลือประชาชน (Humanitarian/Civic Assistance : HCA) ระหว่างวันที่ 28 มกราคม ถึง 3 มีนาคม 2565 จำนวน 5 โครงการก่อสร้าง ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านทุ่งนุ้ย จังหวัดกระบี่ โรงเรียนบ้านหนองมะค่า จังหวัดสระบุรี โรงเรียนวัดคลองตะเคียน จังหวัดจันทบุรี โรงเรียนหนองบอนวิทยาคม จังหวัดตราด และ โรงเรียนบ้านเขาตาอิ๋น จังหวัดระยอง
3. การฝึกแก้ปัญหาบนโต๊ะในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ (Humanitarian Assistance and Disaster Relief Table Top Exercise : HADR-TTX) ระหว่างวันที่ 18 ถึง 20 กุมภาพันธ์ 2565 ณ โรงแรมสิรินพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง
4. การฝึกภาคสนาม (Field Training Exercise : FTX) ระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ถึง 5 มีนาคม 2565 โดยเหล่าทัพรับผิดชอบการฝึก ในรูปแบบการฝึกแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ (Subject Master Expert Exchange : SMEE) พื้นที่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดลพบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และอ่าวไทยตอนบน
มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ในปีนี้ ได้มีการปรับลดกำลังพล จาก 8,964 นาย เหลือ 3,460 นาย และปรับรูปแบบการฝึกภาคสนาม โดยงดการฝึกร่วมขนาดใหญ่ของทั้ง 3 เหล่าทัพ ได้แก่ การฝึกยกพลขึ้นบก การฝึกอพยพพลเรือนออกจากพื้นที่การรบ และการฝึกดำเนินกลยุทธด้วยกระสุนจริง และคงการฝึกผสม ในระดับยุทธวิธีของทั้ง 3 เหล่าทัพ ในลักษณะการฝึกแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ ระดับไม่เกิน 1 กองร้อย โดยไม่เกิน 500 นายในแต่ละพื้นที่การฝึก เพื่อให้สอดรับกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข และจังหวัดต่างๆ
กองทัพไทยกำหนดให้ใช้มาตรการ Bubble and Seal เพื่อความปลอดภัยของกำลังพลที่เข้าร่วมการฝึกฯ และพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยรอบการฝึกฯ ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับการฝึกในปีที่ผ่านมา และนับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง เพราะผู้เข้าร่วมการฝึกฯ ไม่มีการติดเชื้อโควิด–19 เนื่องจากกองทัพไทยได้กำหนดมาตรการและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ก่อน ระหว่าง และหลังการฝึกฯ อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้
การฝึกคอบร้าโกลด์ 2022 แบ่งมาตรการเป็น 3 ระยะ ดังนี้
- ก่อนเข้าประเทศ ผู้เข้ารับการฝึกจากมิตรประเทศ ต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการขอเข้าประเทศ Thailand Pass และตรวจสอบเอกสารขณะเข้าประเทศ (immigration) ไปจนถึงการเข้ารับการกักตัว 7 วัน ตามที่ได้ทำการจองที่พักไว้
- ระหว่างอยู่ในประเทศ แบ่งเป็น 2 ห้วง คือ
- ห้วงการกักตัว (ASQ) และห้วงการฝึก ห้วงการกักตัว (ASQ) ผู้เข้ารับการฝึกทั้งฝ่ายไทยและมิตรประเทศต้องกักตัว 7 วัน
- ตรวจคัดกรองแบบ RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง
สำหรับห้วงการฝึก ใช้มาตรการ Bubble and Seal ในทุกพื้นที่การฝึก โดยจะคัดกรองผู้เข้ารับการฝึกทุกวัน และกำหนดให้มีการตรวจ ATK ทุก ๆ 5 วัน
- หลังจากจบการฝึกฯ จะติดตามรายงานผลตรวจโควิด–19 หลังจากที่เดินทางเข้าประเทศตนเองเพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้รับเชื้อจากประเทศไทย
สำหรับประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกคอบร้าโกลด์ 2022 แบ่งเป็น 3 ระดับ ประกอบด้วย
- ระดับประเทศ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในระดับนานาชาติในการเตรียมความพร้อมด้านการทหารที่มีความเข้มแข็ง ทันสมัย สามารถตอบสนองภารกิจด้านความมั่นคงในทุกมิติ เช่น การรักษาสันติภาพ การบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระดับกองทัพ เป็นการพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร ในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างกองทัพไทย กองทัพสหรัฐ และกองทัพจากมิตรประเทศ เพื่อเป็นหลักประกันความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพไทยในทุกมิติ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะด้านการบรรเทาสาธารณภัยในภูมิภาค เพื่อสร้างเสถียรภาพให้แก่ภูมิภาคอย่างยั่งยืน และในระดับพื้นที่ที่เข้าทำการฝึกฯ ได้รับประโยชน์จากการฝึกในส่วนโครงการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว
- ระดับท้องถิ่น ยังสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในสายตาของมิตรประเทศ และประชาคมโลกต่อไป