หลายสิบประเทศ ทยอยประกาศอพยพคนออกจากยูเครน
หลายประเทศได้เรียกร้องให้พลเมืองตนเองออกจากยูเครน ท่ามกลางคำเตือนของมหาอำนาจชาติตะวันตกว่า รัสเซียอาจบุกยูเครน
สหรัฐ สหราชอาณาจักรและเยอรมนีเป็นหนึ่งในกลุ่มที่บอกให้คนชาติตนเองอพยพออกจากยูเครน ขณะที่รัฐบาลมอสโกได้รวบรวมทหารประมาณ 100,000 นายตามแนวชายแดนของยูเครน แต่ปฏิเสธว่าไม่มีเจตนาที่จะบุกรุก
ในการหารือทางโทรศัพท์ทางประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ได้กล่าวเตือนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียถึงแผนการบุกรุก
ขณะที่ทำเนียบขาวเตือนว่าการบุกรุกอาจเปิดฉากขึ้นโดยการทิ้งระเบิดทางอากาศ ซึ่งทางรัสเซียกล่าวโต้ตอบว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวจะเร่งให้เกิดการตอบโต้เร็วขึ้น
สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีหน้าที่จำเป็นขณะนี้ ได้รับคำสั่งให้ออกจากสถานทูตสหรัฐในเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน และบริการด้านกงสุลถูกระงับตั้งแต่วันอาทิตย์ (13 ก.พ.) ซึ่งมีสถานกงสุลจะยังคงปฏิบัติงานอยู่ในเมืองลวิฟ ทางตะวันตก เพื่อจัดการกับเหตุฉุกเฉิน เช่นเดียวกับแคนาดากำลังย้ายเจ้าหน้าที่สถานทูตไปยังเมืองนี้
สื่อรายงานว่า เมลินดา ซิมมอนส์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำยูเครน ทวีตว่าเธอและ “เจ้าหน้าที่สถานทูตฯ” อยู่ที่เมืองลวิฟ
นอกจากนี้ สื่อดัตช์รายงานด้วยว่า สายการบิน KLM ของเนเธอร์แลนด์ประกาศว่าจะหยุดบินไปยูเครน โดยมีผลทันที
ขณะนี้หลายประเทศ รวมทั้งออสเตรเลีย อิตาลี อิสราเอล เนเธอร์แลนด์ และญี่ปุ่น ได้แจ้งให้พลเมืองของตนออกจากยูเครน บางคนได้อพยพเจ้าหน้าที่ทางการทูตและครอบครัวของพวกเขาออกไปด้วย