เจ้าหน้าที่สหรัฐเชื่อรัสเซียส่งทหารเข้าดอนบาสไม่ถูกคว่ำบาตรเพิ่ม

ตามที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียยอมรับสถานะของภูมิภาคโดเนตสก์ และลูฮันสก์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของยูเครนและประชาชนใช้ภาษารัสเซียในการสื่อสารว่าเป็นรัฐอิสระ พร้อมส่งทหารเข้าไปรักษาสันติภาพ

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งในรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การส่งทหารเข้าไปในเขตแบ่งแยกดินแดนไม่ได้แตกต่างจากสิ่งที่รัสเซียทำอยู่แล้ว จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ถูกคว่ำบาตรมากขึ้น

“นี่ไม่ใช่การบุกรุกเพิ่มเพราะเป็นดินแดนที่พวกเขายึดครองอยู่แล้ว” แหล่งข่าวกล่าวและว่า การส่งทหารรัสเซียไปยังภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของยูเครนไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะรัสเซียมีทหารอยู่ในเขตนั้นมาแล้วแปดปี เพียงแต่ตอนนี้รัสเซียตัดสินใจอย่างชัดเจนและเปิดเผยมากขึ้น ซึ่งสหรัฐจะเดินหน้าเจรจาทางการทูตจนกว่าหรือจนกระทั่งการบุกรุกเกิดขึ้น “รัสเซียเดินหน้าทำให้วิกฤติที่ตนเองสร้างขึ้นตั้งแต่แรกบานปลาย เรายังคงเดินหน้าทำการทูตต่อไปจนกว่ารถถังวิ่ง แต่เรายังมองไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป” เจ้าหน้าที่รายเดิมกล่าว

สำหรับประธานาธิบดีปูติน ไม่นานหลังจากประกาศรับรองกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียสนับสนุนในพื้นที่ดังกล่าว เขาได้สั่งกระทรวงกลาโหมให้ส่งทหารเข้าไปในภูมิภาคโดเนตสก์ และลูฮันสก์เพื่อ “รักษาสันติภาพ”

ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ประณามการตัดสินใจของปูติน เมื่อเดือน ม.ค. เขาพยายามสร้างความชัดเจนว่า การบุกรุกในนิยามของสหรัฐหมายถึง “กำลังร่วมรัสเซียเคลื่อนข้ามพรมแดนยูเครน”

เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดนออกคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันจันทร์ (21 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น ห้ามชาวอเมริกันลงทุน ค้าขาย และจัดหาเงินทุนก้อนใหม่เข้าออกภูมิภาคโดเนตสก์ และลูฮันสก์ของยูเครน ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกคว่ำบาตร

“ขอประกาศเพื่อความชัดเจนว่า มาตรการเหล่านี้เป็นคนละชุดและเพิ่มเติมจากมาตรการทางเศรษฐกิจอันรวดเร็วและรุนแรงที่เรากำลังเตรียมการร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วนหากรัสเซียบุกรุกยูเครนเพิ่มเติม”

เจ้าหน้าที่รัฐบาลไบเดนไม่แน่ใจว่า ประธานาธิบดีสหรัฐผู้เห็นชอบในหลักการพบกับประธานาธิบดีปูตินถ้ารัสเซียไม่บุกรุกยูเครน จะดำเนินการต่อไปหรือไม่เนื่องจากการกระทำของรัฐบาลมอสโก