"เวิลด์แบงก์" ชี้รัสเซียอาจหันพึ่งทำการค้าจีน เลี่ยงผลกระทบคว่ำบาตร
"ธนาคารโลก" เผยรัสเซียอาจหันพึ่งพาจีนทำการค้า หลีกเลี่ยงผลกระทบมาตรการคว่ำบาตร เหมือนที่เกิดขึ้นหลังรัสเซียผนวกดินแดนไครเมียของประเทศยูเครน
นายแฮร์รี บรอดแมน อดีตผู้เจรจาการค้าของสหรัฐและเจ้าหน้าที่ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ซึ่งมีประสบการณ์เกี่ยวกับจีนและรัสเซียเปิดเผยว่า มาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติครั้งใหม่นี้ อาจกระตุ้นให้รัสเซียหันไปทำการค้าด้วยสกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่ดอลลาร์ โดยรัสเซียจะพยายามกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดต่าง ๆ จากมาตรการคว่ำบาตร
"ปัญหาของการคว่ำบาตร โดยเฉพาะกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันอย่างรัสเซียนั้น มีช่องโหว่ในระบบจีนอาจระบุว่า "เราจะซื้อน้ำมันในตลาดเปิด และหากเป็นน้ำมันจากรัสเซีย ก็ยังจะซื้อ" นายบรอดแมนกล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อมูลการค้าของธนาคารโลกและองค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยให้เห็นว่า จีนกลายเป็นประเทศเป้าหมายการส่งออกรายใหญ่ที่สุดของรัสเซียนับตั้งแต่ปี 2557 ที่รัสเซียถูกคว่ำบาตร หลังจากรัสเซียผนวกดินแดนไครเมียของประเทศยูเครน
ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า เนเธอร์แลนด์เคยเป็นประเทศเป้าหมายการส่งออกน้ำมันอันดับหนึ่งของรัสเซียเมื่อทศวรรษที่แล้ว ก่อนที่จะถูกจีนเข้ามาครองตำแหน่งแทน ส่วนเยอรมนีและอังกฤษนำเข้าสินค้าจากรัสเซียในระดับที่ทรงตัวเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่เบลารุสนำเข้าสินค้าจากรัสเซียเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในด้านส่งออกแล้ว รัสเซียยังคงนำเข้าสินค้าจากจีนมากที่สุดอีกด้วย โดยมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2557 โดยสินค้านำเข้าหลักจากจีน ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์โทรคมนาคม, ของเล่น, สิ่งทอ, เสื้อผ้า และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่รัสเซียนำเข้าสินค้าจากเยอรมนีและยูเครนลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนการนำเข้าจากเบลารุสนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย