รู้จัก Cluster Bomb อาวุธต้องห้าม “รัสเซีย” ใช้ถล่มยูเครน

รู้จัก Cluster Bomb อาวุธต้องห้าม “รัสเซีย” ใช้ถล่มยูเครน

รัสเซียใช้อาวุธต้องห้ามคลัสเตอร์ บอมบ์ (Cluster Bomb) โจมตีเมืองเคียฟของยูเครน สร้างความเสียหายให้โรงเรียนและห้างสรรพสินค้า ส่งผลให้ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน (Human Rights Watch) เปิดเผยว่า กองทัพรัสเซียได้ใช้คลัสเตอร์บอมบ์อย่างน้อย 2 ครั้งในช่วงการโจมตียูเครนที่ผ่านมา ทำให้มีประชาชนเสียชีวิต 7 ราย บาดเจ็บอีก 11 คน ซึ่งคลัสเตอร์บอมบ์ ถือว่าเป็นอาวุธต้องห้ามอย่างหนึ่งที่ถูกห้ามใช้ในสงคราม เพราะเป็นอาวุธที่ใช้โจมตีแบบวงกว้าง ทำให้มีประชาชนมีความเสี่ยงที่จะถูกลูกหลงจำนวนมาก

Cluster Bomb รู้จักกันในชื่อ ระเบิดลูกปรายเป็นระเบิดประเภทหนึ่ง ที่สามารถทิ้งจากอากาศยานหรือยิงจากภาคพื้นดินได้ โดยภายในหัวรบมีการบรรจุระเบิดขนาดเล็ก (smaller munitions หรือ bomblets) จำนวนมากเมื่อหัวรบหลักถูกยิงหรือไปตกเหนือเป้าหมาย เปลือกหุ้มจะแตกตัวออก ปล่อยระเบิดขนาดเล็กออกมาสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง 

ส่วนระเบิดขนาดเล็กที่บรรจุใน Cluster Bomb แบ่งออกเป็นได้หลายประเภท เช่นระเบิดแรงสูง ระเบิดเพลิง ระเบิดสังหารบุคคล และระเบิดติดหัวรบเคมีโดย Cluster Bomb ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 

ที่ผ่านมา แต่ละประเทศอาจจะมีชื่อเรียกระเบิดประเภทนี้แตกต่างกันไป หากเป็นระเบิดของเยอรมนี มีชื่อเรียกว่า Butterfly Bomb แต่ที่ถูกกล่าวขานและถูกใช้มากที่สุด คือ กับระเบิด (Mine-laying) ที่สหรัฐ นำมาใช้ในสงครามที่เวียดนาม ลาว และกัมพูชา 

 

มีตัวอย่างที่สงครามเวียดนาม ช่วงปี 2507-2516 มีระเบิดขนาดเล็กกว่า 80 ล้านลูกที่ยังไม่ระเบิด กระจัดกระจายอยู่ทั่วเวียดนาม แต่การค้นหาและทำลายชิ้นส่วนที่ยังไม่ระเบิด เป็นเรื่องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก จึงส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากมาจนถึงปัจจุบัน

ระเบิดแบบเดียวกันนี้ ยังหลงเหลือในลาว กัมพูชา และอัฟกานิสถาน ที่เป็นผลพวงจากการบุกของสหภาพโซเวียต