'บีโออี'ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด หลังเงินเฟ้อพุ่งสูงสุด 30 ปี
ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.75% ในการประชุมวันพฤหัสบดี(17มี.ค.)เพื่อรับมือเงินเฟ้อ ตามการคาดการณ์ของตลาด และถือเป็นการปรับอัตราดอกเบี้ยกลับสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563
บีโออี ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 3 ครั้งติดต่อกัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
ทั้งนี้ เงินเฟ้อในอังกฤษพุ่งแตะ 5.5% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี ก่อนเกิดสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนในวันที่ 24 ก.พ.
ล่าสุด เงินเฟ้อในอังกฤษพุ่งแตะ 7.1% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 30 ปีเช่นกัน หรือนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2535 และสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของบีโออี
บีโออี คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะพุ่งแตะระดับ 7.25% ในเดือนเม.ย. และระบุว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะกลาง
ก่อนหน้านี้ บีโออี มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.50% ในการประชุมเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2547
หลังจากที่บีโออีมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค.2564 จากระดับ 0.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้บีโออี เป็นธนาคารกลางขนาดใหญ่แห่งแรกของโลกที่ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563