ราคาทองฟิวเจอร์ร่วง 0.38% เหตุบอนด์ยีลด์พุ่งกดดันตลาด
ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดวันศุกร์ (25มี.ค.)ปรับตัวลง 0.38% เพราะถูกกดดันจากการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 0.38% ปิดที่ราคา 1,954.8 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนพ.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 76.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมวันที่ 3-4 พ.ค. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 32.9% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเกินไป ซึ่งหากจำเป็น เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุมหนึ่งครั้งหรือหลายครั้ง
นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จำนวน 1 ครั้งหรือมากกว่านั้นในปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ความเห็นของนายวอลเลอร์สอดคล้องกับนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ซึ่งกล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 12 ครั้งในปีนี้ เพื่อแสดงว่าเฟดมีความจริงจังในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ โดยเงินเฟ้อที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีกำลังส่งผลกระทบต่อประชาชน
นายบูลลาร์ดกล่าวว่า เขาต้องการให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้อยู่สูงกว่า 3% จากระดับใกล้ 0% ในขณะนี้
ก่อนหน้านี้ นายบูลลาร์ดเป็นเจ้าหน้าที่เฟดเพียงรายเดียวที่ลงมติให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนนี้ ขณะที่เฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.25-0.50% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2561