เจ้าหน้าที่เซี่ยงไฮ้ยอมรับ‘รับมือโควิดไม่ดีพอ’

นครเซี่ยงไฮ้ ประชากร 25 ล้าน เริ่มล็อกดาวน์เมื่อวันจันทร์ (28 มี.ค.) ไม่กี่ชั่วโมงหลังประกาศเมื่อเย็นวันอาทิตย์ (27 มี.ค.) สร้างความตื่นตระหนกประชาชนแห่ไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต และดันราคาผักพุ่งสูง ชาวบ้านบางคนในเขตผู่ซีฝั่งตะวันตกของเมืองกล่าวว่า พวกเขาถูกสั่งให้อยู่บ้านหลายวันก่อนล็อกดาวน์อย่างเป็นทางการ

ล่าสุด นายหม่า จุนเหลย หนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเซี่ยงไฮ้ ออกมายอมรับถึงความล้มเหลวอย่างที่ไม่มีให้เห็นบ่อยนัก แถลงว่า ทางการเตรียมการมาไม่ดีพอสำหรับการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

“เราน้อมรับเสียงวิจารณ์อย่างจริงใจ และกำลังทำงานหนักเพื่อปรับปรุง”นายหม่า กล่าวและว่า เซี่ยงไฮ้กำลังเพิ่มทรัพยากรในการตรวจโควิดและกักตัวผู้ป่วย

เซี่ยงไฮ้กำลังเจอการระบาดครั้งเลวร้ายที่สุดของจีนในรอบสองปี การล็อกดาวน์แบ่งเป็นสองส่วนสองระยะจากฝั่งตะวันออกสู่ตะวันตก

นายตง จุน ชาวบ้านเขตผู่ซีกล่าวว่า เขตของเขาถูกล็อกดาวน์อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวเมื่อวันพุธ (28 มี.ค.) ก่อนกำหนดทางการสองวัน

“ตอนล็อกดาวน์รอบก่อนๆ ผมซื้อของมาเต็มตู้เย็น แต่คราวนี้ไม่รู้ตัวเลย ตื่นมาก็ได้ยินว่าทางการประกาศล็อกดาวน์แล้ว จึงค่อนข้างยากที่จะหาข้าวของจำเป็น”

ชาวเซี่ยงไฮ้พากันโอดครวญผ่านโลกออนไลน์ว่าไม่มีอาหาร เข้าไม่ถึงบริการทางการแพทย์ และกลัวคนที่ตรวจพบโควิดจะไม่ได้รับการขนย้ายออกจากที่พักได้เร็วพอมีกรณีที่ผู้ป่วยหอบหืดรายหนึ่งเสียชีวิตเพราะไม่ได้รับการรักษา

วันนี้เซี่ยงไฮ้รายงานผู้ติดเชื้อกว่า 5,600 คน ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ศูนย์แสดงนิทรรศการหลายแห่งถูกเปลี่ยนเป็นศูนย์กักตัวขนาดใหญ่

นายหม่ากล่าวว่า ทางการกำลังเร่งส่งตัวและกักตัวผู้ติดเชื้อ ลดเวลาที่พวกเขาอยู่ในชุมชน ซึ่งการล็อกดาวน์ฝั่งตะวันตกจะครอบคลุมประชากรมากกว่าราว 16 ล้านคน จึงขอให้ประชาชนอดทน แต่รับรองว่าชีวิตปกติจะกลับคืนมาในเร็ววัน

ตอนนี้ชาวเซี่ยงไฮ้ใช้วิธีสร้างสรรค์รับมือกับความไม่พอใจ แรปเปอร์สามคนแต่งเพลงเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อหาซื้ออาหาร ถูกแชร์บนโซเชียลมีเดียหลายหมื่นครั้ง