'ชาวฝรั่งเศสในไทย' คึกคักใช้สิทธิเลือกตั้ง ปธน. รอบแรก
"สถานทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย" จัดหน่วยเลือกตั้ง 7 แห่ง เปิดให้ชาวฝรั่งเศสในไทยกว่า 9,000 คน ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ปี 2565 ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว แต่ไม่เป็นอุปสรรคเส้นทางสู่ประชาธิปไตย
สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ปี 2565 ในไทย ซึ่งมีขึ้นเป็นรอบแรกในวันนี้ (10 เม.ย.) บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก มีชาวฝรั่งเศสหัวใจประชาธิปไตยตบเท้าทยอยเดินทางมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงกันตั้งแต่คูหาเลือกตั้งเปิดเมื่อเวลา 8.00 น. และจะดำเนินไปจนถึง 19.00 น.ของวันนี้ หลังจากนั้นหีบเลือกตั้งจะปิดรับบัตร ก่อนเข้าสู่กระบวนการนับคะแนนอย่างรัดกุมและโปร่งใส แล้วส่งคะแนนผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปนับรวมคะแนนยังประเทศฝรั่งเศส
"นายคริสต็อฟ เฮมมิงส์" กงสุลฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย ในฐานะประธานการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในประเทศไทย กล่าวกับกรุงเทพธุรกิจที่ลงพื้นที่ร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งว่า การเลือกตั้งฯ ในประเทศไทยมีขึ้นแบ่งเป็น 2 รอบคือ วันที่ 10 เม.ย. และวันที่ 24 เม.ย. 2565 โดยมีชาวฝรั่งเศสที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 9,340 คน จากผู้ลงทะเบียนพำนักในไทยทั้งหมด 13,538 คน ทั้งนี้ คาดว่าชาวฝรั่งเศสที่อาศัยในไทยมีอยู่ประมาณ 45,000 คน
นายคริสต็อฟ กล่าวว่า การเลือกตั้งฯ จัดขึ้นภายใต้มาตรการความปลอดภัย และให้ความสำคัญด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันโควิด-19 โดยการเลือกตั้งมีขึ้นพร้อมเพรียงกันทั่วโลก เริ่มต้นจากทวีปอเมริกา เอเชีย และยุโรป เพื่อเปิดให้ชาวฝรั่งเศสในต่างแดนที่มีอยู่ราว 1.4 ล้านคนได้ใช้สิทธิเลือกตั้งในต่างประเทศ โดยพบว่า มีชาวฝรั่งเศสที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิฯ มากที่สุดคือ สวิตเซอร์แลนด์ รองลงมาเบลเยียม สหราชอาณาจักร และแคนาดา
"เราคาดหวังว่า ชาวฝรั่งเศสที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะออกไปลงคะแนนเสียงกันทั้งหมด แม้ว่าไม่ได้ใช้สิทธิด้วยตนเอง แต่ก็มอบหมายให้ญาติหรือคนในครอบครัวเลือกตั้งแทนได้" กงสุลฝรั่งเศสกล่าว และเสริมว่า สถานทูตฯให้ความสำคัญกับประชาชนทุกคน รวมถึงผู้สูงอายุ และคนทุพพลภาพจะได้รับอำนวยความสะดวกในการใช้สิทธิฯ
ทั้งนี้ จะไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในหน่วยเลือกตั้ง ยกเว้นแต่สุนัขนำทางคนตาบอด นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้เด็กเข้าไปในพื้นที่เลือกตั้ง ภายใต้การดูแลของผู้ปกครองที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะพวกเขาเป็นอนาคตของฝรั่งเศส จะได้ซึบซับวิถีประชาธิปไตย
การเลือกตั้งครั้งนี้ สถานทูตฝรั่งเศส ร่วมกับสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ฝรั่งเศสที่เชียงใหม่ ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต เปิดให้บริการหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 7 แห่ง ได้แก่
-หน่วยเลือกตั้งที่ 1 และ2 สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ที่กรุงเทพฯ
-หน่วยเลือกตั้งที่ 3 ที่เชียงใหม่
-หน่วยเลือกตั้งที่ 4 ที่พัทยา
-หน่วยเลือกตั้งที่ 5 ภูเก็ต
-หน่วยเลือกตั้งที่ 6 ขอนแก่น
-หน่วยเลือกตั้งที่ 7 เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี
แม้ว่า สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ฯ ที่หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ไม่ได้จัดหน่วยเลือกตั้ง แต่กงสุลกิตติมศักดิ์ ประจำหัวหินได้มาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชาวฝรั่งเศสที่พำนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนได้มาเลือกตั้งที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ ในแต่ละหน่วยเลือกตั้งจะประกอบด้วย หัวหน้าประจำหน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครจากพรรคการเมืองต่างๆ รวมทุกหน่วยแล้วกว่า 50 คน
นอกจากนี้ สถานทูตฯ ได้เตรียมหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่และน้ำดื่มให้บริการประชาชนที่มาลงคะแนนเสียง เนื่องด้วยในวันนี้ไทยมีอากาศร้อนกว่า 30 องศา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส จัดขึ้น 2 รอบ รอบแรกเป็นการลงคะแนนเลือกตั้งจากผู้สัมครจำนวน 12 คน ได้แก่
- นางนาตาลี อาร์โต
- นายฟาเบียง รูแซล
- นายเอมานูว์แอล มาครง
- นายฌ็อง ลาซาล
- นางมารีน เลอ แปน
- นายเอริก แซมูร์
- นายฌ็อง-ลุก เมล็องชง
- นางอาน อีดาลโก
- นายอียานิก ฌาโด
- นางวาเลรี เปแคร็ส
- นายฟีลิป ปูตู
- นายนีกอลา ดูว์ปง-แอญ็อง
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญฝรั่งเศสจะเป็นกำหนดหมายเลขผู้สมัคร เพื่อความเป็นธรรม
ส่วนภายในคูหาเลือกตั้งจะประกอบด้วย
จุดที่1 แสดงตนเพื่อขอใช้สิทธิฯ
จุดที่2 หยิบการ์ดรายชื่อผู้สมัคร (ผู้ใช้สิทธิฯ สามารถหยิบการ์ดไม่ต่ำกว่า 2 ชื่อผู้สมัคร)
จุดที่3 นำการ์ดรายชื่อใส่ซองที่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยจัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากและถือเป็นความลับ (ส่วนการ์ดอื่นๆ ที่ไม่ถูกเลือกต้องถูกทำลายลงถัง ระหว่างวันของการจัดเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่จะทยอยจัดการการ์ดในถังเพื่อไม่ให้ทราบชื่อและจำนวนบัตรของผู้ไม่ถูกเลือก)
จุดที่4 นำซองบัตรเลือกตั้งหย่อนลงในหีบเลือกตั้ง เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งรอบที่สอง จะจัดขึ้นในวันที่ 24 เม.ย.2565 เป็นการลงคะแนนเสียงเลือกผู้สมัครที่ได้รับเสียงโหวตมากที่สุดในสองอันดับแรกของรอบแรก ดังนั้นเรามาติดตามลุ้นผลการเลือกตั้งกันต่อไปว่า เลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสปีนี้ จะมีเซอร์ไพรส์หรือไม่