ธนาคารโลกหั่นคาดการณ์ผลผลิตศก.ยูเครนหดตัว45%

เวิลด์แบงก์ หรือ ธนาคารโลก เผยแพร่รายงานเศรษฐกิจฉบับล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์(10เม.ย.)ปรับลดการคาดการณ์ผลผลิตทางเศรษฐกิจของยูเครนเป็นติดลบ 45.1% ในปีนี้ เนื่องจากการบุกรุกของรัสเซียทำให้ธุรกิจปิดตัว การส่งออกลดลง และทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นไปไม่ได้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ของประเทศ 

ธนาคารโลกยังคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ของรัสเซียในปี 2565 จะลดลง 11.2% เนื่องจากการคว่ำบาตรทางการเงินที่บังคับใช้โดยสหรัฐและพันธมิตรตะวันตกที่มีต่อธนาคารของรัสเซีย รัฐวิสาหกิจ และสถาบันอื่นๆ ของรัสเซีย

รายงานเศรษฐกิจในหัวข้อ “สงครามในภูมิภาค” ของธนาคารโลก คาดการณ์ว่า จีดีพีของภูมิภาคยุโรปตะวันออก ซึ่งประกอบด้วยยูเครน เบลารุส และมอลโดวาจะหดตัว 30.7% ในปีนี้ เนื่องจากผลกระทบจากสงครามและการหยุดชะงักของการค้า

ส่วนการเติบโตในปี 2565 ของภูมิภาคยุโรปกลาง ซึ่งประกอบด้วยบัลแกเรีย โครเอเชีย ฮังการี โปแลนด์ และโรมาเนีย จะลดลงเหลือ 3.5% จาก 4.7% ก่อนหน้านี้เนื่องจากการไหลบ่าของผู้ลี้ภัย ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น และความเชื่อมั่นที่ถดถอยลงซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปสงค์

รายงานของธนาคารโลกประมาณการว่าธุรกิจในยูเครนกว่า50% ปิดบริการ ขณะที่ธุรกิจอื่นๆ ยังคงเปิดดำเนินการตามปกติ และการปิดการขนส่งทางทะเลดำจากยูเครนทำให้การส่งออกธัญพืชของประเทศและครึ่งหนึ่งของการส่งออกทั้งหมดถูกตัดขาด 90%

ธนาคารโลกระบุว่า สงครามทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นไปไม่ได้ในพื้นที่กว้างใหญ่ของประเทศ และกำลังขัดขวางการทำเกษตรกรรมและการเก็บเกี่ยว อีกทั้งการประเมินความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐานที่มากกว่า100 พันล้านดอลลาร์ภายในต้นเดือนมี.ค. ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณสองในสามของจีดีพีประเทศปี 2562 เป็นตัวเลขที่ไม่อัพเดทเนื่องจากสงครามโหมกระหน่ำและสร้างความเสียหายเพิ่มเติม

ธนาคารโลก ระบุด้วยว่า การหดตัวของผลผลิตจีดีพีประมาณ 45.1% ไม่รวมผลกระทบของการทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ แต่สิ่งนี้จะสร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางเศรษฐกิจในอนาคตพร้อมกับการไหลบ่าของผู้ลี้ภัยชาวยูเครนไปยังประเทศอื่น ๆ
 

แอนนา บีเยร์เด รองประธานธนาคารโลกประจำยุโรปและเอเชียกลาง กล่าวว่า การรุกรานของรัสเซียส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจของยูเครน และสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อโครงสร้างพื้นฐาน ยูเครนต้องการการสนับสนุนทางการเงินจำนวนมากในทันที เนื่องจากต้องดิ้นรนเพื่อให้เศรษฐกิจดำเนินต่อไป และรัฐบาลต้องดำเนินการเพื่อสนับสนุนพลเมืองยูเครนที่กำลังทุกข์ทรมานและกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่รุนแรง”