ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น 6.31 ดอลล์หลังจีนเริ่มผ่อนล็อกดาวน์
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันอังคาร(12เม.ย.)ปรับตัวขึ้น 6.31 ดอลลาร์ หลังจากที่จีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้ หลังพบว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มชะลอตัวลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ บวก 6.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 100.60 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 6.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน ได้รับแรงหนุนจากการที่จีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการ ล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ หลังพบว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มชะลอตัวลง
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เตือนว่า มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่มีการบังคับใช้ในปัจจุบัน และที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันอย่างรุนแรง และไม่มีทางที่จะทดแทนปริมาณน้ำมันที่ขาดหายไป
นายบาร์คินโด กล่าวถ้อยแถลงดังกล่าว หลังจากที่เจ้าหน้าที่จากสหภาพยุโรป (อียู) ได้เข้าพบตัวแทนจากโอเปกที่กรุงเวียนนาวานนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตของโอเปก
ทั้งนี้ โอเปกและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 432,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. แม้ว่าสหรัฐและหลายชาติที่นำเข้าน้ำมันต่างเรียกร้องให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตให้มากขึ้นกว่าในระดับปัจจุบัน ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับ 139 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.
อียู มีมติคว่ำบาตรการนำเข้าถ่านหินจากรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียในไม่ช้า ตามการดำเนินการของสหรัฐ แคนาดา และออสเตรเลีย เพื่อตอบโต้การที่รัสเซียโจมตียูเครน
