ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเพิ่มขึ้น 2.70 ดอลล์
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันพฤหัสบดี(14เม.ย.)ปรับตัวขึ้น 2.70 ดอลลาร์ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง ก่อนที่ตลาดจะปิดทำการพรุ่งนี้ เนื่องในวัน Good Friday
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 2.92 ดอลลาร์ ปิดที่ 111.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในส่วนของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 9.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 863,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นต่อไป โดยได้แรงหนุนจากการที่จีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้ และจากคำเตือนของนายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่มีการบังคับใช้ในปัจจุบัน และที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันอย่างรุนแรง และไม่มีทางที่จะทดแทนปริมาณน้ำมันที่ขาดหายไป
ทั้งนี้ โอเปกและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 432,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. แม้ว่าสหรัฐและหลายชาติที่นำเข้าน้ำมันต่างเรียกร้องให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตให้มากขึ้นกว่าในระดับปัจจุบัน ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับ 139 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.
สหภาพยุโรป (อียู) มีมติคว่ำบาตรการนำเข้าถ่านหินจากรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียในไม่ช้า ตามการดำเนินการของสหรัฐ แคนาดา และออสเตรเลีย เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียโจมตียูเครน