13 ปี โครงการ “แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” ส่งมอบแว่นตา ต่อประกายแสงแห่งความหวัง ให้ผู้สูงวัย และผู้ด้อยโอกาส
13 ปี โครงการ “แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” ส่งมอบแว่นตา ต่อประกายแสงแห่งความหวัง ให้ผู้สูงวัย และผู้ด้อยโอกาส
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดย นายอนุกูล ปีดแก้ว อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวถึง โครงการ “แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” ว่าเป็นความร่วมมือกันระหว่าง กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ห้างแว่นท็อปเจริญ และมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย เพื่อสนองพระราชประสงค์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเล็งเห็นความสำคัญและต้องการช่วยเหลือผู้สูงวัย ผู้ด้อยโอกาสที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปี ขึ้นไป ที่ประสบปัญหาด้านสายตา และด้านโรคตาอื่น ๆ ได้แก่ โรคต้อกระจก ต้อหิน ต้อลม เป็นต้น ไม่สามารถเข้ารับการตรวจสายตา ตัดแว่นตา หรือเข้ารับการผ่าตัดรักษาได้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง และเป็นอุปสรรคในการประกอบอาชีพ โดยโครงการฯ นี้ เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาทั้งสิ้น 13 ปี ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายได้รับประโยชน์ มากกว่า 58,000 คน
ในปี 2565 นี้ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ได้ดำเนินโครงการ “แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” ในพื้นที่ 12 จังหวัด กลุ่มเป้าหมายจังหวัดละ 400 คน รวมทั้งสิ้น 4,800 คน ได้แก่ ชุมพร ลำพูน พิษณุโลก อุดรธานี ตรัง ลำปาง สระแก้ว ตาก กาญจนบุรี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และปัตตานี โดย ทีม ONE Home พม. หน้าที่เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกกลุ่มผู้สูงวัย ผู้ด้อยโอกาส ที่มีปัญหาและต้องการรับความช่วยเหลือด้านสายตา ในพื้นที่ทุรกันดาร ห้างแว่นท็อปเจริญสนับสนุนทีมผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมืออันทันสมัยในการตรวจวัดสายตา และประกอบแว่น หากพบว่าเป็นโรคตาและไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยแว่นตา อาทิ ต้อกระจก จะนำส่งผู้ป่วยเหล่านี้เข้ารับการรักษาอาการต่อที่ “ศูนย์รักษาตาท็อปเจริญ” โดยไม่คิดค่าบริการรักษาแต่อย่างใด นายอนุกูล กล่าวในตอนท้าย