เบนซ์ จับมือ กฟผ. จัดทริปรักษ์โลก ชมเขื่อนไฮบริด
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ร่วมกับ กฟผ. จัดทริปรักษ์โลก ส่งขบวนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และปลั๊กอินไฮบริด เยี่ยมชมโรงไฟฟ้าโซลาเซลล์ลอยน้ำไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในโลกจ.อุบลราชธานี แสดงเจตนารมณ์ส่งเสริมคนไทยหันมาใช้พลังงานสะอาด ขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ
โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีวิสัยทัศน์เดียวกัน คือการก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านการใช้พลังงานสะอาด (clean energy) และพลังงานหมุนเวียน (renewable energy) โดยให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและความยั่งยืน
โดยนโยบายระดับโลกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ปรับกลยุทธ์จาก “รถไฟฟ้านำ” (electric-first) เป็น “รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น” (electric only) ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป หากสภาวะตลาดเอื้ออำนวย
ส่วนในไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็ริเริ่มนโยบายเพื่อพลังงานสะอาดมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดโครงการ “Charge to Change” เป็นปีที่ 2 เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้รถหันมาชาร์จไฟมากขึ้นและเป็นที่มาที่ทำให้มองหาพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งในด้านพลังงานไฟฟ้าร่วมผลักดันสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
โดย กฟผ. และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ อยู่ระหว่างการศึกษา ความร่วมมือสนับสนุนการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าและการบริหารจัดการพลังงานร่วมกัน เช่น การจัดการแบตเตอรี่ที่หมดอายุการใช้งาน โดยอาจนำมาใช้ต่อในภาคการจัดการพลังงาน เป็นแบตเตอรี่สำหรับระบบกักเก็บพลังงานแบบตั้งอยู่กับที่ (Stationary energy storage system) เป็นต้น
บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ. การร่วมมือกันครั้งนี้จะมีส่วนผลักดันให้คนไทยได้มีโอกาสใช้พลังงานสะอาด ลดการปล่อยมลพิษ และเชื่อว่าประสบการณ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าของ กฟผ. ที่ดำเนินงานวิจัยและพัฒนา เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้เป็นทางเลือกใหม่ของผู้เดินทาง ภายใต้ธุรกิจใหม่ของ “EGAT EV Business Solutions”
โดยเปิดให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT แบบ DC Fast Charge ที่จ่ายไฟได้ถึง 120 kW ภายในเวลา 30 นาที และยังมีการชาร์จแบบ AC Normal Charge อีกด้วย
ปัจจุบัน กฟฝ. เปิดให้บริการสถานี EleX by EGAT และสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA แล้วจำนวน 49 สถานีทั่วประเทศ ซึ่งในเร็ว ๆ นี้ยังเตรียมขยายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากยิ่งขึ้น เช่น
จ.ร้อยเอ็ด จ.อุดรธานี จ.สกลนคร จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.ศรีสะเกษ และ จ.เลย เป็นต้น โดยตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จ EleX by EGAT รวมกว่า 120 สถานี ให้ได้ภายในสิ้นปี 2565
สำหรับที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร หรือโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี ติดตั้งสถานีสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าไว้ด้วย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมโซลาเซลล์ลอยน้ำไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
การผลิตไฟฟ้าแบบ Hybrid สามารถผลิตไฟฟ้าจากทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวัน และพลังน้ำจากในช่วงที่ไม่มีแสงแดด ช่วยเพิ่มเสถียรภาพพลังงานหมุนเวียน และเสริมความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ โดยมีขนาดกำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 47,000 ตัน/ปี