เบนซ์ เคาะราคา 'EQS' EV หรู เริ่ม 8.57 ล้านบาท ลุ้นประกอบในประเทศ มอเตอร์ 2 ตัว
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เคาะราคา EQS เริ่มต้น 8.57 ล้านบาท พร้อมส่งมอบ ให้ผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งให้ทำตลาด ซับแบรนด์ Mercedes-EQ อย่างเป็นทางการ 4 ราย เคาะราคา EQS เผยยอดผู้แสดงความสนใจ EV หรู ผ่านออนไลน์ กว่า 500 ราย
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) ย้ำเป้าหมายการทำตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทย ด้วยการส่งมอบ “EQS” จำนวน 4 คันให้กับผู้จำหน่ายรถยนต์แบรนด์ Mercedes-EQ ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ 4 ราย คือ
- บริษัท เบนซ์บีเคเค กรุ๊ป จำกัด
- บริษัท เบนซ์ พระราม 3 จำกัด
- บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด
- บริษัท ทีทีซี มอเตอร์ จำกัด
โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากเมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดตัว EQS รุ่นแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พบว่ามีกระแสตอบรับจำนวนมาก โดยพว่ามีลูกค้าแสดงความสนใจผ่านช่องทางดิจิทัล (digital leads) มากกว่า 500 ราย ทั้งที่งานมหกรรมยานยนต์และการจัดงานเปิดตัวพิเศษที่เซ็นทรัลเวิลด์และเอ็มโพเรียมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ดังนั้น เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการทำการตลาดของผู้จำหน่าย Mercedes-EQ อย่างเป็นทางการใน และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่ให้ความสนใจในยานยนต์ไฟฟ้าจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ บริษัทจึงส่งมอบรถยนต์ร EQS จำนวน 4 คัน ซึ่งประกอบด้วย ให้กับตัวแทนจำหน่าย เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสสัมผัสตัวจริงทำความรู้จักนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับลักชัวรีจากแบรนด์ Mercedes-EQ อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ภายใต้นโยบายระดับโลกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป เอจี คือการเตรียมพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวทั่วโลก โดยปรับกลยุทธ์จาก“รถยนต์ไฟฟ้านำ” (electric-first) เป็น “รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น” (electric-only) ภายในทศวรรษนี้
“นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่จะทยอยออกมาให้ผู้บริโภคทั้งในไทยและทั่วโลกได้เห็นนับจากนี้ต่อยอดจากความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ PHEV ระดับลักชัวรีด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในแต่ละเซกเมนต์สูงสุด”
สำหรับ ราคา EQS ที่ส่งมอบให้กับตัวแทนจำหน่ายครั้งนี้ ประกอบด้วย
- EQS 450+ AMG Premium ราคาจำหน่าย 8,570,000 บาท
- EQS 450+ Edition 1 ราคา 8,870,000 บาท
ทั้ง 2 รุ่น ติดตั้งแบตเตอรีลิเธียม ไอออน ความจุ 107.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ใช้มอเตอร์ตัวเดียว ขับเคลื่อนล้อหลัง ระยะทางการใช้งานต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง สูงสุด 770 กม.
ทั้งนี้ รถที่ส่งมอบครั้งนี้ เป็นการนำเข้าจากเยอรมนี (CBU) ซึ่งมีภาระภาษีนำเข้า 80% โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ จะนำเข้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า ก่อนที่เดินหน้าประกอบรถภายในประเทศ (CKD) ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องมีภาระภาษีนำเข้า 80%
อย่างไรก็ตาม รุ่นที่จะประกอบในประเทศ จะไม่ใช่ 2 รุ่น ที่ส่งมอบในวันนี้ แต่จะเป็นรุ่นที่ใช้มอเตอร์ 2 ตัว แต่สามารถใข้งานได้ระยะทางสูงสุด 770 กม. เช่นกัน