'เอ็มจี วีเอส เอชอีวี'  ไฮบริด เสริมพลัง เพิ่มความคล่องตัว

'เอ็มจี วีเอส เอชอีวี'  ไฮบริด เสริมพลัง เพิ่มความคล่องตัว

เอ็มจี นั้นให้ความสำคัญกับตลาด เอสยูวี อย่างต่อเนื่อง และหลากหลายทางเลือกพลังงาน ไม่ว่าจะเป็น เอชเอส, เอชเอส พีเอชอีวี หรือ แซดเอส อีวี ล่าสุด เอ็มจี เสริมตลาด เอสยูวีอีกรุ่น ที่เปิดตัวไปช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และวันนี้เรามาลองขับ เอ็มจี วีเอส เอชอีวี กันครับ

เอ็มจี วีเอส เอชอีวี (MG VS HEV) มี 2 รุ่นย่อยคือ รุ่น D8.59 แสนบาท และรุ่น X 9.19 แสนบาท

เป็นรถในกลุ่ม บี-เซ็กเมนต์ ตัวรถมีความยาว x กว้าง x สูง อยู่ที่ 4,370 x 1,809 x 1,653 มม. ระยะฐานล้อ 2,585 มม. ระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า/หลัง 1,526/1,539 มม. น้ำหนักรถ 1,450 กก. 

เป็นรถที่ใช้พื้นฐานร่วมกับ แซดเอส แต่แนวทางการออกแบบ และการวางตลาดนั้นอยู่คนละกลุ่มกัน ทำให้หลายคนอาจจะมีคำถามว่า แล้วสรุป วีเอส จะอยู่ในตลาดไหนกันแน่ เพราะอยู่ระหว่าง แซดเอส ที่เป็นรถในตลาด บี-เซ็กเมนต์ และ เอชเอส ที่เป็น ซี-เซ็กเมนต์ แต่โครงสร้างแพลตฟอร์ม ใช้ร่วมกับ แซดเอส

แต่หากดูแนวทางการทำตลาดของเอ็มจี ก็อาจจะไม่ต้องแปลกใจ เพราะเอ็มจีวางตลาดคร่อมๆ เซ็กเมนต์ เช่น เอ็มจี 5 ที่โครงสร้างตัวถังเป็น ซี-เซ็กเมนต์ แต่วางตลาดในกลุ่ม บี-เซ็กเมนต์ แถมยังลงมาแข่งในตลาด อีโค คาร์ ด้วย

วีเอส เอชอีวี ออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMICและด้วยความที่เป็นไฮบริด จึงเลือกที่จะออกแบบกระจังหน้าโดยใช้แนวคิดของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี มาใช้ แต่ยังคงมีช่องให้ลมผ่านไปยังห้องเครื่องยนต์ได้ เป็นกระจังหน้าแบบที่เรียกว่า Electrified Matrix Grille Design

สำหรับออปชั่นหลักของ วีเอส เอชอีวี เช่น ไฟหน้า LED Projector พร้อมระบบ เปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟสำหรับขับขี่เวลากลางวัน ไฟท้าย LED

ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ยางขนาด 215 / 55 R17 และมีฝาครอบที่เรียกว่า Aero Wheel Cover มีเป้าหมายเพื่อช่วยลดแรงต้านลม หรือเพิ่มแอโรไดนามิคให้ดียิ่งขึ้น

ห้องโดยสาร มี 2 แบบให้ลูกค้าเลือกคือ สีทูโทน (ดำ-ขาว) แบบคันที่ผมขับอยู่นี้ และสีดำ การออกแบบดูทันสมัย และพรีเมียมทีเดียว โดยเฉพาะหน้าจอคู่ (Dual Widescreen Cockpit) แบบ HD ขนาดใหญ่ 2 จอเชื่อมต่อกัน คือ จอแสดงข้อมูลการขับขี่ แบบ Full Virtual Dashboard ขนาด 12.3 นิ้ว เห็นข้อมูลชัดเจน และเลือกดูข้อมูลต่างๆ ได้ด้วยปุ่มควบคุมที่พวงมาลัย กับจอกลาง Touch Screen ขนาด 12.3 นิ้ว ควบคุมการทำงาน ผ่าน Illuminated Touch Panel

\'เอ็มจี วีเอส เอชอีวี\'  ไฮบริด เสริมพลัง เพิ่มความคล่องตัว

อีกจุดเด่นคือการออกแบบคอนโซลกลางแบบ 2 \'เอ็มจี วีเอส เอชอีวี\'  ไฮบริด เสริมพลัง เพิ่มความคล่องตัว ชั้น เพิ่มพื้นที่ใช้สอย ทำได้เพราะเป็นเกียร์ไฟฟ้า ด้านบนเป็นที่อยู่ของเกียร์ สวิทช์ควบคุมการทำงานต่างๆ และจุดชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ส่วนด้านล่างมีช่องเชื่อมต่อยูเอสบีทั้งไทป์ซี และไทป์ เอ และสามารถวางโทรศัพท์ไว้ด้านล่างได้เลยไม่เกะกะ 

\'เอ็มจี วีเอส เอชอีวี\'  ไฮบริด เสริมพลัง เพิ่มความคล่องตัว

จุดเชื่อมต่อยูเอสบี ยังมีให้สำหรับผู้โดยสารด้านหลังอีก 1 ช่อง พร้อมกับช่องแอร์เพื่อกระจายความเย็นให้ทั่วถึง 

\'เอ็มจี วีเอส เอชอีวี\'  ไฮบริด เสริมพลัง เพิ่มความคล่องตัว

ส่วนออปชั่นสำคัญอื่นๆ ด้านความสะดวกสบาย ที่ติดตั้งมาให้กับ วีเอส เอชอีวี เช่น เบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง วนเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง ที่พักแขนด้านหน้า พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ กระจกมองหลังแบบตัดแสง ลำโพง 6 ดอก 

รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ Android กุญแจรีโมท (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล 

ด้านออปชั่นด้านความปลอดภัย หลักๆ ประกอบด้วย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ เบรกมือไฟฟ้า

ระบบป้องกันการไหล AVH (Auto Vehicle Hold) เบรก เอบีเอส ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์

ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง  ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน สัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง ระบบจำกัดความเร็ว

และเมื่อพูดถึงเอ็มจี ก็ต้องพูดถึง i-SMART ซึ่งแน่นอน วีเอส เอชอีวี ก็มีมาให้เช่นกัน สามารถสั่งการด้วยเสียง เช่น เปิด-ปิด หลังคา กระจกหน้าต่าง เพิ่มหรือลดอุณหูภูมิ ฯลฯ 

\'เอ็มจี วีเอส เอชอีวี\'  ไฮบริด เสริมพลัง เพิ่มความคล่องตัว

วีเอส เอชอีวี เป็นไฮบริด เอสยูวี รุ่นแรกของเอ็มจีในประเทศไทย เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ / 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร  ที่ 4,500 รอบ/นาที 

ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันมตร

เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า

เกียร์ อี-ซีวีที มีโหมดขับขี 3 โหมด คือ  Eco, Comfort และ Sport ซึ่งมีความแตกต่างกันให้รู้สึกได้ โดยโหมดสปอร์ต ระบบจะรักษารอบเครื่องยนต์ในระดับ ซึ่งหากไม่ได้ขับแบบตะบี้ตะบันตลอเวลา ผมว่าการขับเอ็มจี วีเอส เอชอีวี ใช้ Comfort ก็พอแล้ว ประหยัดน้ำมันลงได้ และลดเสียงจากการที่เครื่องยนต์รักษารอบไว้ในระดับสูง

ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) หรือการชาร์จกลับ ปรับระดับความหน่วงได้ 3 ระดับ ด้วยตัวเอง 

\'เอ็มจี วีเอส เอชอีวี\'  ไฮบริด เสริมพลัง เพิ่มความคล่องตัว

พูดถึงระบบไฮบริด ของวีเอส ผมว่ามันเด่นไปทางสรรถนะมากกว่าเรื่องของความประหยัด ที่การขับขี่ทั่วๆ ของผม ทำได้ดีสุดประมาณ 15.5 กม./ลิตร แต่ถ้าค่าเฉลี่ยทั้งหมดจากการใช้งาน 660 กม. มีจอดซื้อของบ้าง จอดถ่ายภาพรถบ้าง อยู่ที่ประมาณ 13 กม./ลิตร 

แต่อย่างที่บอกครับว่า การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าไปโดดเด่นที่เรื่องของสมรรถนะ โดยเฉพาะการจังหวะการเปลี่ยนความเร็ว หรือจังหวะการเร่งแซงที่ทำได้ดี ช่วยให้ขับได้สนุก ซอกแซกไปมาได้ และไล่ความเร็วขึ้นไปได้ดี ลื่นไหล ไม่ค่อยมีจังหวะสะดุดให้รู้สึก

\'เอ็มจี วีเอส เอชอีวี\'  ไฮบริด เสริมพลัง เพิ่มความคล่องตัว

พวงมาลัยน้ำหนักเบา ขับง่ายสบายๆ เข้าออกซอกซอย ขึ้น-ลง ลานจอดรถทำได้ดี แต่สายสปอร์ตที่ขับเร็วๆ อาจอยากได้น้ำหนักเพิ่มกว่านี้สักหน่อย แต่ในด้านความแม่นยำ ทำได้ดี 

ช่วงล่างเกาะถนนดี แม้จะเป็นรถที่มีความสูงทั้งตัวรถ หรือว่าความสูงใต้ท้องรถ 145 มม. แต่ก็รองรับการขับขี่แบบนี้ได้ดีพอ รวมถึงจังหวะการขับขี่ในทางโค้ง เป็นเอสยูวีที่เกาะถนนไว้ใจได้ 

แต่ในภาพรวม เซ็ทช่วงล่างไปในทางนุ่มนวล ดังนั้นจึงมีจังหวะโยนตัวให้รู้สึกได้ หากคนขับมัวแต่สนุกกับการขับ คนนั่งเบาะหลังอาจจะมึนได้บ้าง แต่ถ้าขับแบบทั่วๆ ไป เดินทางท่องเที่ยว ผู้โดยสารจะชอบเพราะนุ่ม สบาย ดูดซับแรงสั่นสะเทือนกระแทกกระทั้นได้ดี 

จุดเด่นอีกอย่างคือเบาะนั่งด้านหลังออกแบบมาได้ดีเลย นั่งสบาย พนักพิงมีขนาดและองศาการเอนที่ดี เดินทางไกลๆ ไม่เมื่อยล้า และสามารถพับแยกได้ อาจจะไม่ราบเรียบ 100% แต่ ก็เพิ่มพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้มา และเอาของขึ้น-ลง ไม่สะดุด 

และแน่นอน ห้องโดยสารมาพร้อาหลังคาพาโนรามิค ซันรูฟ ขนาดใหญ่ เมื่อแดดร่มลมตก ผีตากผ้าอ้อม แสงเริ่มทึมๆ เปิดม่านบังแดด เพิ่มความโปร่งโล่งให้กับรถได้ดี ไม่อึดอัด ส่วนการเก็บเสียงรบกวนจากภายนอก อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ไม่ถึงกับเงียบกริ๊บ แต่ก็ไม่ถึงกับสร้างความรำคาญใจ 

\'เอ็มจี วีเอส เอชอีวี\'  ไฮบริด เสริมพลัง เพิ่มความคล่องตัว

โดยสรุป ผมก็ยังยืนว่า เป็นรถในตลาด บี-เซ็กเมนต์ ที่เด่นในเรื่องการขับขี่ การตอบสนองของระบบบไฮบริดที่มาได้รวดเร็ว ช่วยให้รถกระฉับกระเฉง

นอกจากขับสนุก ก็ยังเพื่มความปลอดภัยในจังหวะที่ต้องการนำรถออกจากพื้นที่เสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นทางร่วมทางแยก หรือการขับขี่ในสภาพการจราจรที่จำเป็นต้องขับแบบซอกแซกไปมาครับ 

\'เอ็มจี วีเอส เอชอีวี\'  ไฮบริด เสริมพลัง เพิ่มความคล่องตัว